น้ำมันฟื้นต่อดันหุ้นสหรัฐฯ พุ่ง ทองลงจับตาผลประชุมเฟด

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นต่อเนื่องในวันอังคาร (15 ธ.ค.) จับตาเฟดลงมติเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางสัปดาห์นี้ ปัจจัยดังกล่าวดันวอลล์สตรีทพุ่งแรง ส่วนทองคำปิดลบในกรอบแคบๆ

น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียตหรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 37.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 53 เซ็นต์ ปิดที่ 38.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันปรับลดมา 6 วันติด หลังภาวะอุปทานล้นตลาดที่ยืดเยื้อมานานไม่ส่งสัญญาณเบาบางลงในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวในวันอังคาร (15 ธ.ค.) นักวิเคราะห์ชี้ว่าได้แรงสนับสนุนจากท่าทีของนายเอ็มมานูเอล คาชิควู รัฐมนตรีพลังงานไนจีเรีย ที่เรียกร้องให้โอเปกนัดประชุมฉุกเฉิน หากว่าราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์

นอกจากนี้แล้ว นักลงทุนยังจับตาไปยังที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ท่ามกลางความคาดหมายว่าจะมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (15 ธ.ค.) ขยับขึ้นอย่างกว้างขวาง ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและการเงิน หลังราคาน้ำมันฟื้นตัวต่อเนื่องและจับตาที่ประชุมเฟด ท่ามกลางความคาดหมายว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 156.41 จุด (0.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.524.91 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 21.47 จุด (1.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,043.41 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 43.13 จุด (0.87 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,995.36 จุด

หุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งจะได้ประโยชน์จากการขึ้นดอกเบี้ย เป็นตัวขับเคลื่อนตลาด ด้วยผลักให้ดัชนีภาคการเงินของเอสแอนด์พี ขยับขึ้น 2.7 เปอร์เซ็นต์ ส่วนหุ้นของโกลด์แมนเซคส์ ปิดบวก 3.7 เปอร์เซ็นต์ ก่อแรงหนุนอย่างมากต่อดัชนีอุตสากรรมดาวโจนส์ ด้านเจพีมอร์แกน, มอร์แกน สแตนลีย์, ซีตีกรุ๊ป และแบงก์ออฟอเมริกา ต่างก็ปรับขึ้นมากกว่า 3 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่ภาคพลังงานของเอสแอนด์พีก็ปรับขึ้น 2.7 เปอร์เซ็นต์ หลังจากราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ และเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน ปิดบวกพอสมควร

ด้านราคาทองคำเมื่อวันอังคาร (15 ธ.ค.) ปิดลบในกรอบแคบๆ หนึ่งวันก่อนหน้านี้เฟดจะตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มอุปสงค์โลหะมีค่าชนิดนี้ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,061.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม