หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้ (8 ธ.ค.) ดัชนีปิดที่ระดับ 1,306.98 จุด ลดลง 26.59 จุด หรือคิดเป็น 1.99% มูลค่าการซื้อขาย 36,921.22 ล้านบาท โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,324.61 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,306.20 จุด นักวิเคราะห์ฯ มองว่า ตลาดหุ้นไทยลงลึกหลังราคาน้ำมันดิบร่วงแรง แห่เทขายหุ้นพลังงานหวั่นราคาน้ำมันจะไหลลงมากกว่านี้ รวมทั้งมีแรงขายกลุ่มแบงก์ต่อเนื่องด้วย ทิศทางพรุ่งนี้มีโอกาสรีบาวนด์ทางเทคนิค แต่กรอบการปรับตัวขึ้นยังเปราะบาง จากความกัลวลปัจจัยกดดัน ส่วนข้างในประเทศยังไร้ปัจจัยบวก ให้แนวรับ 1,300 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีปรับตัวลง ทำสถิติต่ำสุดใหม่ในรอบปี โดยได้รับแรงปัจจัยกดดันหลักมาจากหุ้นกลุ่มใหญ่ อาทิ หุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลงแรง เพราะราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังจากกลุ่มผู้ค้าน้ำมันโลก (OPEC) ที่คงกำลังการผลิต 31.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ประกอบกับความต้องการขายในสหรัฐฯ ยังคงล้นตลาด อีกทั้งประเทศอิหร่านยังเตรียมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตหลังจากบรรลุการคว่ำบาตรจากประเทศมหาอำนาจ โดยปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ความต้องการขายมากกว่าความต้องการซื้ออย่างมาก ซึ่งไม่มีแนวโน้มที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปยังปรับตัวแดนลบเช่นกัน โดยได้รับแรงกดดันจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ อีกทั้ง ยังมีผลต่อนักลงทุนต่างชาติให้เกิดแรงเทขายเพื่อหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งเตรียมเม็ดเงินสำหรับลงทุนในประเทศที่มีการเติบโตสูงอย่างสหรัฐฯ จึงส่งผลให้ต่างชาติยังไม่มีสัญญานซื้อที่ชัดเจนในเร็วๆ นี้
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) คาดว่า ดัชนีปรับตัวแดนลบ โดยประเมินแนวรับ 1,290-1,300 จุด และแนวต้าน 1,320-1,325 จุด มีผลมาจากราคาน้ำมันที่ภาพรวมยังคงปรับตัวลงแรงต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินราคาน้ำมันดิบสิ้นปีได้ เนื่องจากผันผวนแรง ซึ่งมีผลต่อบรรยากาศการลงทุนโดยเฉพาะหุ้นกลุ่มใหญ่อย่างพลังงานให้ปรับตัวลงเช่นกัน ขณะเดียวกัน ยังมีวันหยุดระหว่างสัปดาห์ ซึ่งมีผลต่อปริมาณการซื้อขายให้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้ง ยังมีนักลงทุนรอความชัดเจนจากการประชุมเฟดในวันที่ 15 ธ.ค.นี้
กลยุทธ์การลงทุน แนะ Wait&See หรือลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มเข้า SET50 และ SET100 หุ้นเด่น GPSC-MTLS
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,565.37 ล้านบาท ปิดที่ 41.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
SPRC มูลค่าการซื้อขาย 1,889.70 ล้านบาท ปิดที่ 8.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,657.17 ล้านบาท ปิดที่ 160.50 บาท ลดลง 5.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,537.20 ล้านบาท ปิดที่ 241.00 บาท ลดลง 11.00 บาท
TKN มูลค่าการซื้อขาย 1,409.25 ล้านบาท ปิดที่ 6.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท