เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันดิ่งลงต่ำกว่า 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันพุธ (2 ธ.ค.) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดที่ยังไม่จางหาย ปัจจัยนี้ฉุดให้วอลล์สตรีทร่วงแรงเช่นกัน ส่วนทองคำปิดลบหลังประธานเฟดส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.91 ดอลลาร์ ปิดที่ 39.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทรุดต่ำกว่า 40 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 42.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์คาดหมายว่า ที่ประชุม 12 ชาติสมาชิกโอเปกในเมืองหลวงของออสเตรียจะมีมติคงเป้าหมายกำลังผลิตไว้ตามเดิมที่ 30 ล้านบาร์เรล แม้มีความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด
นอกจากนี้ อีกปัจจัยที่ฉุดราคาน้ำมันในวันพุธ (2 ธ.ค.) ก็คือ ข้อมูลอย่างเป็นทางการของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ที่เผยให้เห็นว่าคลังน้ำมันดิบสำรองเชิงพาณิชย์ของประเทศ ในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล บ่งชี้อุปสงค์ที่อ่อนแอภายในชาติผู้บริโภครายใหญ่
ราคาน้ำมันที่ตกต่ำส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (2 ธ.ค.) ขยับลง ท่ามกลางความเห็นที่แข็งกร้าวของประธานเฟด เพิ่มความคาดหมายว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม
ดาวโจนส์ ลดลง 158.67 จุด (0.89 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.729.68 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 23.12 จุด (1.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,079.51 จุด แนสแดค ลดลง 33.08 จุด (0.64 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,123.22 จุด
นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่า เธอกำลังมองไปถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยซึ่งจะถูกมองว่าเป็นข้อพิสูจน์ว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวจากภาวะถดถอยแล้ว ขณะที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินมีกำหนดหารือกันในวันที่ 15-16 ธันวาคม
นอกจากนี้แล้ว นางเยลเลนยังแสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจอเมริกา หลังจากข้อมูลในวันเดียวกัน แสดงให้เห็นว่ามีการจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ก่อนหน้าที่จะมีการเผยแพร่ข้อมูลภาคแรงงานอันสำคัญในวันศุกร์ (4 ธ.ค.)
ความเห็นของนางเยลเยน ที่บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ฉุดให้ราคาทองคำเมื่อวันพุธ (2 ธ.ค.) ปิดลบพอสมควร โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 9.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,053.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์