เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปิดลบ 4 วันติดเมื่อวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) หลังพบสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ซ้ำเติมความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรง นักลงทุุนเชื่อมั่นมากกว่าเดิมว่าเฟดจะไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ทองคำเดินหน้าบวกต่อ ท่ามกลางแรงคาดคะเนว่าแนวโน้มขาลงถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 26 เซ็นต์ ปิดที่ 46.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันลดลง 44 เซ็นต์ ปิดที่ 48.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ สร้างความแปลกใจแก่ตลาด จากรายงานที่เผยให้เห็นว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นถึง 7.6 ล้านบาร์เล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายเกือบ 3 เท่า
การเพิ่มขึ้นดังกล่าวส่งผลให้สต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ อยู่ที่ 468.6 ล้านบาร์เรล ยังแกว่งตัวในระดับสูงสุดในรอบอย่างน้อยๆ 8 ทศวรรษ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) ทะยานอย่างแข็งแกร่ง ตามความเคลื่อนไหวของตลาดทุนทั่วโลก จากความเชื่อมั่นมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) จะเลื่อนเวลาปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไป
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 217.00 จุด (1.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.141.75 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 29.62 จุด (1.49 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,023.86 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 87.25 จุด (1.82 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,870.10 จุด
นักวิเคราะห์มองว่ามีโอกาสน้อยที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยตามหลังเหล่าข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระดับปานกลางที่เผยแพร่กันออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ ในนั้นรวมถึงตัวเลขล่าสุดในวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) ที่เผยให้เห็นว่าราคาผู้บริโภคในเดือนกันยายนลดลง
ส่วนราคาทองคำเมื่อวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) ปิดบวก 5 วันติด แตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ท่ามกลางการคาดเดาว่าแนวโน้มขาลงของโลหะมีค่าชนิดนี้สิ้นสุดลงแล้ว ขณะที่ทองคำได้รับแรงสนับสนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 7.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,187.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์