เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันร่วงลงอีกกว่า 1 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (12 พ.ย.) หลังรัฐบาลสหรัฐฯ รายงานสต๊อกเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซ้ำเติมความกังวลภาวะอุปทานล้นตลาด ส่วนวอลล์สตรีทและทองคำปิดลบจากความเห็นของสมาชิกเฟดที่ย้ำถึงความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 41.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ รายงานในวันพฤหัสบดี (12 พ.ย.) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองทางพาณิชย์ของประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นถึง 4.2 ล้านบาร์เรล มากกว่านักที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าที่จะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลอย่างมาก
การปรับขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้คลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ อยู่ห่างจากระดับสูงสุดตลอดกาลไม่ถึง 5 ล้านบาร์เรล ขณะที่กำลังผลิตของอเมริกายังคงสูงลิ่ว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (12 พ.ย.) ปิดลบจากแรงฉุดของหุ้นกลุ่มพลังงานและวัสดุ รวมถึงความเห็นของหนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) ที่แย้มว่าอาจขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า
ดาวโจนส์ ลดลง 254.15 จุด (1.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.448.07 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 29.03 จุด (1.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,045.97 จุด แนสแดค ลดลง 61.94 จุด (1.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,005.08 จุด
นักลงทุนจับตความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม เป็นครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ ท่ามกลางความคาดหมายว่ามันอาจเป็นเช่นนั้น หลังพบข้อมูลภาคแรงงานที่แข็งแกร่งเมื่อเร็วๆนี้
ในวันพฤหัสบดี (12 พ.ย.) นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ให้ความเห็นว่าจากเงื่อนไขต่างๆ มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่ทางคณะกรรมการจะเริ่มนโยบายการเงินระดับปกติ
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (12 พ.ย..) ยังคงปิดในแดนลบ ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลการจ้างงานอันแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ที่เพิ่มความเป็นไปได้ว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ย ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,081.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์