รอยเตอร์ - เหล่าชาติสมาชิกโอเปกล้มเหลวในการตกลงเพดานกำลังผลิตในวันศุกร์(4ธ.ค.) การประชุมที่จบลงด้วยความเกรี้ยวโกรธ ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายโดยไม่มีนโยบายอย่างเป็นทางการ หลังอิหร่านบอกว่าจะไม่พิจารณาควบคุมกำลังผลิตจนกว่าจะถึงระดับเป้าหมาย หลังถูกจำกัดภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกมานานหลายปี
ราคาน้ำมันร่วงลงมากว่าครั้งในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางความแตกแยกภายในสมาชิกโอเปกเกี่ยวกับประเด็นความสมดุลทางงบประมาณ ขณะที่ธนาคารต่างๆอย่างโกลด์แมนแซคส์ ประมาณการณ์ว่าราคาน้ำมันอาจดิ่งลงต่ำไปแตะระดับ 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากว่าโลกยังผลิตเกินกว่าการบริโภคและไม่มีขีดความสามารถกักเก็บน้ำมันส่วนเกินอีกต่อไป
ในถ้อยแถลงสุดท้ายของโอเปกไม่ได้การพาดพิงถึงเพดานการผลิตใหม่ ขณะที่ครั้งสุดท้ายที่โอเปกล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงเกิดขึ้นเมื่อปี 2011 ซึ่งหนนั้นซาอุดีอาระเบียพยายามผลักดันให้ทางกลุ่มเพิ่มกำลังผลิตเพื่อเหนี่ยวรั้งราคาที่พุ่งทะยานท่ามกลางเหตุประชาชนลุกฮือในลิเบีย "เราไม่ได้ตัดสินใจ ไม่มีจำนวน" ไบจาน ซานเกเนห์ รัฐมนตรีพลังงานอิหร่านบอกกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุม
อับดอลลา ซาเล็ม เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปกบอกว่าทางกลุ่มไม่สามารถตกลงกันได้ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขใด เพราะว่ามันไม่สามารถประมาณการณ์ได้ว่าน้ำมันของอิหร่านจะเพิ่มเข้ามาในตลาดในปีหน้ามากน้อยแค่ไหน หลังจากมาตรการคว่ำบาตรต่างๆถูกถอนออกไปภายใต้ข้อตกลงโครงการนิวเคลียร์ที่บรรลุกับชาติตะวันตกเมื่อ 6 เดือนก่อน
รัฐมนตรีส่วนใหญ่ลุกออกจากห้องประชุุมโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่นายบาดรี พยายามพูดแก้เกี้ยวว่าโอเปกยังคงแข็งแกร่งเหมือนเคย
เมื่อ 1 ปีก่อน ซาอุดีอาระเบียผลักดันให้โอเปกตัดสินใจปกป้องส่วนแบ่งของตลาดแทนการลดกำลังผลิต ด้วยความหวังว่าจะเขี่ยเหล่าผู้ผลิตน้ำมันชั้นหินของสหรัฐฯ ซึ่งมีต้นทุนสูงกว่าออกจากตลาด ขณะที่เวลานี้สมาชิกรายเล็กๆหลายประเทศได้ออกมาเรียกร้องให้มีการปรับลดการผลิตเพื่อดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น
เหล่าสมาชิกชาติยากจนของโอเปกกล่าวหาว่าผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของกลุ่มกำลังมัดมือชกพวกเขาอย่างได้ผล กระตุ้นให้นายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย ออกมายืนยันว่าเวลานี้เขารับฟังวคามเห็นของทุกคน
อิหร่านแสดงจุดยืนชัดเจนก่อนหน้าการประชุมว่าจะเพิ่มกำลังผลิตอย่างน้อย 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน หนึ่งราว 1 เปอร์เซนต์ของอุปทานโลก หลังมาตรการคว่ำบาตรถูกยกเลิก ขณะที่เวลานี้โลกมีกำลังผลิตมากกว่าการบริโภคอยู่สูงสุดประมาณ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ไนมี บอกก่อนหน้านี้ แสดงความหวังว่าการเติบโตของอุปสงค์โลกจะช่วยซึมซับกำลังผลิตที่พุ่งขึ้นของอิหร่านในปีหน้า อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆหลังเสร็จสิ้นการประชุม
แหล่งข่าวบอกกับรอยเตอร์ว่าเดิมทีเหล่ารัฐมนตรีเห็นพ้องเดินหน้านโยบายต่างๆที่มีอยู่ระหว่างสองชั่วโมงแรกของการหารือ ในนั้นเกี่ยวข้องกับการเพิ่มกำลังผลิตร่วม ยกเว้นสมาชิกใหม่อย่างซาอุดีอาระเบีย จาก 30 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็น 31.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็ฯไปตามกรอบกำลังผลิตที่แท้จริง
อย่างไรก็ตามต่อมาดูเหมือนว่าทุกการตัดสินใจถูกล้มเลิก ปล่อยให้การประชุมจบลงด้วยการที่ทางกลุ่มไม่มีนโยบายอย่างเป็นทางการใดๆ และไม่ชัดเจนว่าอะไรเกิดขึ้นกับการประชุมลับครั้งนี้