เอเอฟพี - ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้พบกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน รองมกุฎราชกุมารและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมแห่งซาอุดีอาระเบีย เมื่อวานนี้ (11 ต.ค.) เพื่อหารือวิธีทางการเมืองที่จะยับยั้งสงครามในซีเรีย หลังจากที่มอสโกตัดสินใจส่งเครื่องบินเข้าไปทิ้งระเบิดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ผู้นำรัสเซียได้พบปะกับพระราชโอรสของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุฯ ที่เมืองโซซิ โดยมีรัฐมนตรีต่างประเทศหมีขาว เซียร์เก ลาฟรอฟ และรัฐมนตรีพลังงาน อเล็กซานเดอร์ โนวาก เข้าร่วมประชุมด้วย
“หลายปีมานี้เรามีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับซาอุดีอาระเบียมาโดยตลอดเกี่ยวกับสงครามในซีเรีย” ลาฟรอฟ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
“ทั้งสองฝ่ายยืนยันว่าซาอุดีอาระเบียและรัสเซียมีจุดมุ่งหมายเดียวกันในเรื่องซีเรีย โดยสิ่งสำคัญที่สุดก็คือจะปล่อยให้รัฐอิสลามก่อการร้ายเข้าครอบครองซีเรียไม่ได้”
“หลังจากการหารือในวันนี้เรามีความเข้าใจมากขึ้นว่าควรจะเดินหน้าไปสู่วิธีแก้ไขทางการเมืองได้อย่างไร"
ด้านเจ้าชายโมฮัมเหม็ดตรัสว่า กรุงริยาดมีความกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงทางทหารของรัสเซียในซีเรีย รวมถึงโอกาสที่มอสโกจะจับมือเป็นพันธมิตรกับอิหร่านซึ่งเป็นไม้เบื้อไม้เมากับซาอุฯ
เจ้าชายทรงยืนยันว่า ซาอุดีอาระเบียเห็นด้วยที่จะหยุดสงครามนองเลือดในซีเรียด้วยวิธีทางการเมือง ทว่าประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งเป็นมิตรสนิทของรัสเซียก็จะต้องสละอำนาจด้วย
ลาฟรอฟกล่าวว่า รัสเซียพร้อมที่จะร่วมมือกับซาอุฯ อย่างใกล้ชิดยิ่งกว่าเดิม เพื่อให้มั่นใจว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของมอสโกมุ่งทำลายเป้าหมายกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส), อัล-นุสรา ฟรอนท์ และฐานที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ ในซีเรียเท่านั้น
รัสเซียส่งฝูงบินขับไล่ทั้งรุ่นทันสมัยและรุ่นเก่าที่ผลิตโดยสหภาพโซเวียตเข้าไปทิ้งบอมบ์จุดบัญชาการและศูนย์ฝึกต่างๆ ทั่วซีเรียที่พวกเขาอ้างว่าเป็นของ “พวกก่อการร้าย” เพื่อช่วยสนับสนุนปฏิบัติการภาคพื้นดินของทหารอัสซาด
บทบาทของรัสเซียในวันนี้ทำให้ปฏิบัติการถล่มไอเอสของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรถูกกลบรัศมี ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อวอชิงตัน
ประธานาธิบดีปูตินกล่าวเมื่อวานนี้ (11) ว่า จุดมุ่งหมายของรัสเซียคือการ “ปกป้องรัฐบาลที่มีความชอบธรรม และสร้างเงื่อนไขเพื่อนำไปสู่การประนีประนอมทางการเมือง”