รอยเตอร์ – การโจมตีทางอากาศที่เชื่อว่าดำเนินการโดยกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯได้ปลิดชีวิตทหารซีเรีย 4 คนในจังหวัดเดอีร์อัลซอร์ ซึ่งถูกกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ยึดครองไว้เกือบทั้งหมด กลุ่มสังเกตการณ์รายงานในวันนี้ (7) โดยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เครื่องบินขับไล่ของกลุ่มพันธมิตรโจมตีกองกำลังรัฐบาลซีเรีย
แหล่งข่าวใกล้ชิดกับรัฐบาลซีเรียยืนยันว่ามีการโจมตีดังกล่าวจริง และระบุว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตรวมทั่งยานพาหนะหลายคันถูกทำลาย
ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศซีเรียได้ระบุในจดหมายถึงคณะมนตรีความมั่นแห่งสหประชาชาติและเลขาธิการยูเอ็นว่า “สาธารณรัฐอาหรับซีเรียประณามการรุกรานซึ่งหน้านี้ของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งขัดต่อวัตถุประสงค์ของกฎบัตรยูเอ็นอย่างโจ่งแจ้ง”
“กระทรวงการต่างประเทศซีเรียเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงดำเนินการกับการรุกรานนี้โดยทันทีและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก”
กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวลงมาที่ค่ายทหารซาเอกอใกล้เมืองอัยยัชทางตะวันตกของจังหวัดเดอีร์อัลซอร์และทำให้ทหารบาดเจ็บ 13 รายในเหตุการณ์ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่กลุ่มพันธมิตรเริ่มปฏิบัติการทิ้งระเบิดใส่กลุ่มไอเอสในซีเรีย
กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ระบุว่า มีการโจมตีดังกล่าวลงมาเป็นระยะๆ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ปฏิบัติการของกองกำลังที่นำโดยสหรัฐฯเพื่อปราบปรามกลุ่มไอเอส ซึ่งควบคุมเดอีร์อัลซอร์เกือบทั้งหมดรวมถึงเมืองเอกของจังหวัด มักพุ่งเป้าที่กลุ่มนี้ในพื้นที่ทางตะวันออกของจังหวัด
ในเมืองเดอีร์อัลซอร์ การโจมตีทางอากาศเมื่อคืนนี้ที่เชื่อว่าดำเนินการโดยกลุ่มพันธมิตรได้ส่งผลให้ผู้หญิงคนหนึ่งและลูกของเธอ 2 คนเสียชีวิต กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ระบุ
จังหวัดเดอีร์อัลซอร์เชื่อมเมืองหลวงโดยพฤตินัยของกลุ่มไอเอสในจังหวัดรอกเกาะห์กับดินแดนที่กลุ่มนี้ยึดครองในอิรัก และแหล่งน้ำมันของจังหวัดนี้ถือเป็นแหล่งรายได้หลักสำหรับกลุ่มนี้
