เอเจนซีส์ – ในสื่อสังคมออนไลน์ตอนนี้กำลังมีการเผยแพร่คำพูดๆ หนึ่งที่ว่า “การให้อภัยผู้ก่อการร้ายเป็นเรื่องของพระเจ้า แต่การส่งพวกเขาไปหาพระองค์เป็นหน้าที่ของผม” โดยอ้างกันว่ามาจากปากของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และก็ดูเป็นคำพูดที่เขาอาจพูดหรือจะพูด แต่ความจริงแล้วนั้นเขาไม่เคยพูดเลย
คำพูดดังกล่าวที่ถูกคิดว่าเป็นของปูตินนั้นถูกทวีตเมื่อวันอังคาร (17) โดย เรมี มาอาลูฟ ซึ่งทำงานอยู่ที่สถานีโทรทัศน์รัสเซียทูเดย์ และมันได้แพร่กระจายอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์นับตั้งแต่นั้น
แต่หลังจากนั้นมาอาลูฟได้ลบทวีตดังกล่าว และชี้แจงในอีกทวีตหนึ่งภายหลังว่าเธอเอาข้อความนี้มาจากโพสต์ๆ หนึ่งในเฟสบุ๊คและเธอได้กล่าวขอโทษแล้ว
ข้อความดังกล่าวได้แพร่หลายออกไปในขณะที่ชาวเน็ตส่วนใหญ่ชื่นชมปูตินว่ามีจุดยืนต่อต้านการก่อการร้ายที่เด็ดขาด ภายหลังเกิดเหตุโจมตีที่กรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน
การตกของเครื่องบินโดยสารรัสเซียในอียิปต์เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ซึ่งต่อมามีการพบร่องรอยของระเบิดทำเองที่ถูกวางบนเครื่องโดยกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ก็นำมาซึ่งการตอบสนองอย่างแข็งกร้าวจากรัสเซียด้วยเช่นกัน
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ รัสเซียและฝรั่งเศสได้จับขั้วพันธมิตรอย่างที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ในขณะที่พวกเขาเห็นพ้องที่จะประสานงานหน่วยงานทางทหารและความมั่นคงต่อต้านกลุ่มไอเอส โดยทั้งสองประเทศต่างส่งเครื่องบินขับไล่ไปทิ้งระเบิดในจังหวัดรอกเกาะห์อันเป็นที่มั่นสำคัญของกลุ่มนี้
ปูติน กล่าวหลังจากนั้นว่า “การฆาตกรรมคนของเราในไซนายเป็นหนึ่งในอาชญากรรมที่นองเลือดที่สุดเท่าที่กลุ่มไอเอสเคยกระทำมา เราจะไม่ปล่อยให้น้ำตาของเราเหือดแห้ง สิ่งนี้จะคงอยู่ตลอดไปในหัวใจและจิตใจของเรา อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้จะไม่หยุดยั้งพวกเราจากการตามล่าและลงโทษผู้กระทำผิด”
“พวกเราต้องทำเรื่องนี้ไม่ว่าจะใช้เวลายาวนานแค่ไหนก็ตาม เราต้องรู้ชื่อของพวกเขาทั้งหมดให้ได้ เราจะตามหาไม่ว่าพวกเขาจะกำลังหลบซ่อนอยู่ที่ไหน เราจะตามหาพวกเขาทุกแห่งหนบนโลกใบนี้และจับมาลงโทษ”
คำพูดที่ใกล้เคียงกับประโยคดังกล่าวมากที่สุดมาจากภาพยนตร์เรื่อง Man on Fire ในปี 2004 ที่ตัวละครซึ่งรับบทโดย เดนเซล วอชิงตัน พูดว่า “การให้อภัยเป็นเรื่องของพวกเขากับพระเจ้า หน้าที่ของผมทำให้พวกเขาได้พบกัน” ทั้งนี้ตามรายงานของยูเอสนิวส์