เอเอฟพี - แอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยต่อคณะกรรมการกิจการกองทัพแห่งสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (1 ธ.ค.) ว่า เพนตากอนเตรียมที่จะส่ง “กองกำลังพิเศษเพื่อโจมตีเป้าหมายในต่างแดน” (specialized expeditionary targeting force) ไปยังอิรัก เพื่อสนับสนุนทหารเคิร์ดเปชเมอร์กาและกองทัพแบกแดด พร้อมเรียกร้องให้ชาติมหาอำนาจอื่นๆ ยกระดับการมีส่วนร่วมต่อสู้ไอเอส
กลุ่มติดอาวุธไอเอสได้บุกยึดดินแดนและเมืองสำคัญไว้ได้หลายแห่งในอิรักและซีเรีย ซึ่งตลอด 1 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรก็ได้ส่งฝูงเครื่องบินขับไล่เข้าไปทิ้งระเบิดเพื่อหวังปราบนักรบกลุ่มนี้ให้ราบคาบ
ประสบการณ์จากสงครามอิรักทำให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยืนกรานปฏิเสธที่จะส่งทหารภาคพื้นดิน (boots-on-the-ground) ในช่วงแรกๆ และเน้นที่ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วง ซึ่งก็มีหลายชาติที่ร่วมมือกับวอชิงตันส่งเครื่องบินไปทิ้งบอมบ์เป้าหมายไอเอสตั้งแต่เดือน ส.ค.ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี เพนตากอนเริ่มยอมรับความจริงที่ว่า สหรัฐฯ ไม่อาจบดขยี้ไอเอสได้อยู่หมัดหากปราศจากกองกำลังภาคพื้นดินเข้าช่วยเสริมอีกแรง
เมื่อเดือน ต.ค. สหรัฐฯ ประกาศส่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 50 นายเข้าไปยังซีเรียเพื่อช่วยนักรบท้องถิ่นที่ต่อสู้ไอเอสอยู่ และรวบรวมข่าวกรองเพื่อ “ชี้เป้า” ให้แก่เครื่องบินขับไล่ของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร
คาร์เตอร์ เลี่ยงที่จะให้คำตอบชัดเจนเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงจำนวนหน่วยรบพิเศษที่สหรัฐฯ จะส่งไปเพิ่มเติม โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง แต่ระบุว่าจะ “มากกว่า” ทหาร 50 นายที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในซีเรียแน่นอน
สหรัฐฯ มีทหาร 3,500 นายประจำการอยู่ในอิรักขณะนี้ แต่ภารกิจของพวกเขาถูกจำกัดไว้แค่การ “ฝึกฝนและให้คำแนะนำ” แก่กองกำลังท้องถิ่นเท่านั้น
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม บอกกับเอเอฟพีภายหลังว่า หน่วยรบพิเศษที่สหรัฐฯ จะส่งไปเพิ่มเติมน่าจะอยู่ที่ราวๆ 200 นาย
แม้หน่วยปฏิบัติการพิเศษชุดใหม่จะมีฐานอยู่ในอิรัก แต่ก็มีศักยภาพที่จะจู่โจมข้ามพรมแดนไปถึงตอนเหนือของซีเรีย
“กองกำลังพิเศษชุดนี้จะสามารถจู่โจม ช่วยเหลือตัวประกัน รวบรวมข่าวกรอง และล่าตัวบรรดาแกนนำไอเอส” คาร์เตอร์กล่าว
“พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติภารกิจฝ่ายเดียวข้ามไปยังเขตแดนซีเรีย”
คาร์เตอร์ซึ่งเป็นรัฐมนตรีกลาโหมคนที่ 4 ภายใต้รัฐบาลโอบามา ระบุว่า ยุทธวิธีใหม่ของสหรัฐฯ จะทำให้พวกแกนนำไอเอสต้อง “หวาดผวา”
“คุณไม่มีทางรู้ว่าจะมีใครโผล่เข้ามาทางหน้าต่างในตอนกลางคืน... นั่นคือความรู้สึกที่เราต้องการให้เกิดขึ้นกับแกนนำไอเอส และสมุนของพวกเขา”
คาร์เตอร์ยังเอ่ยถึงกรณีที่หน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ และทหารเคิร์ดเปชเมอร์กาบุกเข้าไปยังคุกไอเอสในเมืองฮาวิยาห์ทางตอนเหนือของอิรัก เมื่อเดือน ต.ค. และสามารถช่วยชีวิตตัวประกันราว 70 คนที่กำลังจะถูกไอเอสสังหาร ซึ่งการจู่โจมครั้งนั้นทำให้สหรัฐฯ ต้องสูญเสียชีวิตทหารไป 1 นาย
บอสใหญ่เพนตากอนยังกล่าวเป็นนัยๆ ว่า อาจจะมีการส่งหน่วยรบพิเศษเข้าไปเพิ่มเติมในซีเรีย นอกจาก 50 นายที่มีการเปิดเผยแล้ว
“เราพร้อมที่จะทำมากกว่านี้... ผมมีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่า ท่านประธานาธิบดีจะอนุญาตและอนุมัติให้เราทำได้เมื่อมีโอกาส”
คาร์เตอร์ยังเรียกร้องให้ชาติพันธมิตรเพิ่มขีดความสามารถในการทำลายกลุ่มไอเอส
“ประชาคมโลกรวมถึงชาติพันธมิตรและหุ้นส่วนของเราจำเป็นต้องยกระดับการต่อสู้ ก่อนที่จะเกิดเหตุโจมตีเหมือนในปารีสอีก”