รอยเตอร์ - พันธมิตรนาโตมีแผนส่งเครื่องบินลาดตระเวนและขีปนาวุธเข้าไปเสริมระบบป้องกันตนเองแก่ตุรกีตามแนวชายแดนติดกับซีเรีย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันอังคาร (1 ธ.ค.) ท่างกลางข้อพิพาทอังการายิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียตก และมอสโกเคลื่อนไหวประจำการเครื่องบินทิ้งระเบิด “ซู-34” ติดขีปนาวุธจากอากาศสู่อากาศ ดำเนินภารกิจในซีเรียเป็นครั้งแรก
เหล่าประเทศสมาชิกนาโต้พยายามหาทางสร้างความอุ่นใจแก่ตุรกีที่กำลังพิพาทกับรัสเซีย ตามหลังเหตุยิงเครื่องบินมอสโกตกตามแนวชายแดนซีเรีย ด้วยการเติมเต็มช่องว่างแทนเยอรมนีและสหรัฐฯที่เตรียมถอนแท่นยิงขีปนาวุธแพทริออตออกไปจากดินแดนแห่งนี้
จากถ้อยแถลงถอนขีปนาวุธของเยอรมนีและสหรัฐฯ เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ประกอบกับความเคลื่อนไหวเข้าแทรกแซงสงครามกลางเมืองซีเรียอย่างฉับพลันของรัสเซียในเดือนกันยายน กระตุ้นให้เหล่าประเทศสมาชิกนาโตเสนอให้ความช่วยเหลือกองทัพอากาศตุรกีเพิ่มเติม จากเดิมที่สเปน คือรัฐสมาชิกอื่นๆ ชาติเดียวของนาโต้ที่มีขีปนาวุธแพทริออตในตุรกี
“เราจำเป็นต้องใช้แสนยานุภาพที่เรามีอย่างเต็มที่เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามในทางใต้ของนาโต” ลินาส ลินเควิซิอุส รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนียบอกกับรอยเตอร์ในกรุงบรัสเซลส์ ระหว่างประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศชาติอื่นๆ ของนาโต้กล่าว “เราต้องสนับสนุนพันธมิตรของเรา ตุรกี”
เหล่าผู้แทนทูตบอกว่ามาตรการต่างๆ อาจรวมไปถึงการเสริมเรือของรัฐสมาชิกนาโตทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประจำการเครื่องบินรบของนาโต้ที่ฐานทัพอินเซอร์ลิคของตุรกีเพิ่มเติม และเสริมแท่นยิงป้องกันขีปนาวุธเพิ่มเติมจากของสเปน
ก่อนการประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศนาโต เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า นายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีว่าการฯ จะกระตุ้นให้นาโตดำเนินการมากขึ้นในการปกป้องตุรกีและยกระดับต่อสู้กับนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรีย
คาดหมายว่าเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศจะเผยแพร่ถ้อยแถลงถัดจากนี้ในวันอังคาร (1 ธ.ค.) สำหรับส่งยุทโธปกรณ์ทางทหารไปยังแนวชายแดนของตุรกีเพิ่มเติม ขณะเดียวกันก็คาดหมายว่า เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโตจะตัดสินใจแพ็คเก็จดังกล่าวภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
นาโตประจำการขีปนาวุธจากพื้นผิวสู่อากาศแพทริออต ตามแนวชายแดนตั้งแต่เดือนมกราคม 2013 เพื่อสอยขีปนาวุธใดๆ จากความขัดแย้งซีเรียที่อาจพลาดเป้าเข้าสู่เขตแดนของตุรกี
ทั้งนี้ อังการาร้องขอให้พันธมิตรคงระบบป้องกันขีปนาวุธนี้เอาไว้ ตั้งแต่ก่อนหน้าความตึงเครียดกับรัสเซียจะปะทุขึ้น
เครื่องบินเอฟ-16ของตุรกียิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียตกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน เหตุกระทบกระทั่งลักษณะนี้ครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามเย็น และกัดเซาะความสัมพันธ์ระหว่างอังการากับรัสเซียให้ตึงเครียดยิ่งขึ้น
มอสโกปฏิเสธว่าไม่ได้ละเมิดน่านฟ้าของตุรกี และตอบโต้ด้วยการส่งระบบระบบขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานสุดไฮเทคแบบเอส-400 ที่สามารถยิงขีปนาวุธและเครื่องบินในพิสัยสูงสุด 400 กิโลเมตรเข้าประจำการในซีเรีย
นอกจากนี้แล้ว สำนักข่าวรัสเซียยังรายงานด้วยว่า เครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิด ซู-34 ติดขีปนาวุธจากอากาศสู่อากาศ ได้ดำเนินภารกิจในซีเรียเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ (30 พ.ย.)
แม้กองทัพอากาศตุรกีแสดงขีดความสามารถในการสกัดเครื่องบินรบรัสเซียที่อาจล่วงล้ำน่านฟ้าของพวกเขาระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย เหล่ารัฐมนตรีของนาโตบอกว่าการส่งมอบความสนับสนุนด้านการทหารแก่ตุรกียังออกแบบมาเพื่อสร้างความอุ่นใจแก่อังการาและสยบความตึงเครียดด้วย