รอยเตอร์ - ดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซียในวันอังคาร (1 ธ.ค.) เห็นชอบชุดมาตรการคว่ำบาตรต่อตุรกี แก้แค้นกรณียิงเครื่องบินมอสโกตก แต่มาตรการต่างๆส่วนใหญ่เป็นไปตามที่เครมลินเคยขู่ก่อนหน้านี้และมีการละเว้นประเด็นสำคัญๆ โดยเฉพาะในภาคพลังงาน
คำสั่งดังกล่าวที่เผยแพร่บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของรัฐบาลในวันอังคาร (1 ธ.ค.) ระบุรายชื่อผลผลิตทางการเกษตรต่างๆที่รัสเซียจะไม่นำเข้าจากตุรกีอีกนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2016 เป็นต้นไป และห้ามเครื่่องบินเช่าเหมาลำไปยังตุรกี ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม
อย่างไรก็ตาม มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวไม่ได้เล็งเป้าหมายเล่นงานโครงการทางพลังงานที่สำคัญต่างๆ อย่างเช่นท่อลำเลียงแก๊สเตอร์กิช สตรีม หรือของกินต่างๆอย่างเช่นมะนาวหรือถั่วที่ส่วนใหญ่แล้วรัสเซียนำเข้ามาจากตุรกี
ความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกและอังการาเสื่อมทรามลงอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ตุรกียิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียตกใกล้ชายแดนซีเรียเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน
เจ้าหน้าที่ตุรกีบอกว่า เครื่องบินลำดังกล่าวละเมิดน่านฟ้าของพวกเขาและได้แจ้งเตือนให้เปลี่ยนเส้นทางซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ทางมอสโกยืนยันว่าเครื่องบินอยู่เหนือน่านฟ้าซีเรีย ประเทศที่พวกเขากำลังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ในสงครามกลางเมือง 4 ปี
คำสั่งของรัฐบาลยังรวมไปถึงระงับกิจกรรมของคณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างสองประเทศ และออกข้อจำกัดต่างๆ ต่อบริษัทขนส่งตุรกี ในส่วนของอาหารที่จะถูกแบนตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป มีทั้งผลไม้และผักต่างๆ อย่างเช่นมะเขือเทศ, หัวหอม, แตงกวา, องุ่น, แอปริคอต และแอปเปิล เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ไก่และเกลือ
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แถลงเมื่อวันเสาร์ (28 พ.ย.) ว่าจะมีการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อตุรกีตอบโต้เหตุเครื่องบินถูกสอยร่วง และเจ้าหน้าที่รัสเซียเผยว่ามาตรการคว่ำบาตรอาจถูกขยายไปมากกว่านี้หากเล็งเห็นว่ามีความจำเป็น