เอเจนซีส์/ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามาเพิ่งลงนามกฎหมายอนุมัติแพ็กเกจความช่วยเหลือยูเครนซึ่งรวมไปถึงยุทโธปกรณ์ต่างๆ แต่ทว่าหนังสือพิมพ์สหรัฐฯ วอชิงตันโพสต์ รายงานล่าสุดเปิดเผยว่า ส่วนหนึ่งของความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ส่งไปให้แนวหน้ายูเครนเป็นยุทโธปกรณ์ตกรุ่นที่เก่าเกือบจะสิ้นอายุการใช้งาน แต่ยุทธภัณฑ์มือหนึ่งใหม่แกะกล่องที่ยูเครนได้รับกลับเป็นกล้องส่องกลางคืน และผ้าพันแผล
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวานนี้ (30 พฤศจิกายน) ว่า สหรัฐฯ ได้จัดงบความช่วยเหลือรัฐบาลยูเครนไม่ต่ำกว่า 260 ล้านดอลลาร์ในส่วนของยุทโธปกรณ์ที่ไม่ได้ทำอันตรายต่อชีวิตเพื่อทำให้กองกำลังเนชันแนลการ์ดที่อยู่แถวหน้าสามารถสู้รบกับกองกำลังกบฎยูเครนตะวันออกที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย รวมไปถึงรถถังรุ่น T-72B3 ที่มีสมรรถนะสูง ซึ่งจากรายงานของสื่อ RFERL ในวันที่ 23 กันยายน 2015 พบว่า รถถังรัสเซียรุ่น T-72B3 ปรากฏอยู่ในฝั่งยูเครน และถูกยึดไว้ได้เป็นครั้งแรกโดยกองกำลังเคียฟ แต่ภายหลังทางกบฏยูเครนสามารถยึดได้กลับคืนไป
โดยสื่อการทหาร Military Today ระบุว่า รถถังรัสเซียรุ่น T-72B3 นั้นเป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงล่าสุด และได้รับการส่งมอบให้เข้าประจำการกองทัพรัสเซียในปี 2013
และสื่อรัสเซีย ดิอินเตอร์พริเทเตอร์แมกกาซีน รายงานยืนยันว่า รถถังรุ่นนี้ยังคงใช้เฉพาะกองทัพรัสเซียภายในประเทศ และไม่ได้ส่งออกไปขายต่างประเทศแต่อย่างใด
แต่ทว่าเมื่อกลับมาดูฝั่งกองทัพยูเครนที่ได้รับการสนับสนุนของสหรัฐฯ สื่ออเมริกาชี้ว่า ยุทโธปกรณ์บางส่วนที่ทางยูเครนได้รับนั้นเป็นสิ่งของที่ล้าสมัย และเกือบจะสิ้นสภาพการใช้งาน เป็นต้นว่า ยูนิตกองกำลังรบพิเศษยูเครนที่ประจำอยู่ด้านนอกโดเนตสค์ใช้รถฮัมวี่ทหารที่ได้รับจากสหรัฐฯรุ่นย้อนหลังไปไกลถึงปลายปียุค 80 ถึงต้นปียุค 90 ที่ระบุจากซีเรียลนัมเบอร์บนตัวรถ
โดยรถฮัมวีรุ่นเก่าแก่ทั้ง 3 คันที่ยูนิตทหารรบพิเศษยูเครนใช้นี้มีแค่ประตูและหน้าต่างที่ทำมาจากพลาสติก ซึ่งแทบจะป้องกันอะไรไม่ได้แม้แต่ฝุ่นจากข้างทาง
นอกจากนี้ เมื่อขับรถฮัมวีบริจาคนี้ไปได้จำนวนร้อยกว่ากิโลเมตร ยางของรถฮัมวีคันหนึ่งเกิดระเบิด และแหล่งข่าวนายช่างทหารกองทัพยูเครนพบว่าเป็นเพราะรถเหล่านี้ถูกเก็บอยู่ในโรงเก็บของสรรพาวุธเป็นเวลานาน
ด้านหน่วยทหารราบยูเครนที่มีทหารในสังกัดราว 120 นายได้รับเสื้อเกราะกันกระสุนจากเพนตากอนเช่นกัน ซึ่งเป็นรุ่นที่ทางเพนตากอนได้สั่งให้กองกำลังสหรัฐฯ เลิกใช้ในสนามรบตั้งแต่ในช่วงกลางปี 2000
โดยแหล่งข่าวผู้บัญชาการรบยูเครนรายหนึ่งให้ความเห็นกับวอชิงตันโพสต์ในเรื่องอุปกรณ์ที่ทางยูเครนได้รับด้วยขุ่นเคืองใจว่า “หากทางสหรัฐฯ ต้องการส่งอาวุธให้ยูเครน อย่าส่งยุทโธปกรณ์มือสองมาให้” ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทางยูเครนจะไม่พอใจ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้หมายถึงชีวิตและเลือดเนื้อของทหารแนวหน้าในสงครามยูเครนตะวันออก
วอชิงตันโพสต์ยังรายงานเพิ่มเติมต่อว่า สื่อสหรัฐฯ สามารถแกะรอยยุทโธปกรณ์หมดอายุการใช้งานเหล่านี้ได้ไกลไปถึงส่วนแนวหน้าของกองกำลังยูเครนในพื้นที่ยูเครนตะวันออกจากความช่วยเหลือของนายช่างทหารและผ่านการให้ข้อมูลของบรรดาทหารเนชันแนลการ์ดยูเครนเหล่านี้ ซึ่งในบางกรณี มีการใช้ตัวเลขซีเรียลนัมเบอร์เพื่อตามหาแหล่งกำเนิดของยุทโธปกรณ์เหล่านั้น
สื่อสหรัฐฯ ยังชี้ต่อว่า ความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ในรูปยุทโธปกรณ์ที่หมดสภาพได้สั่นคลอนขวัญและกำลังใจของทหารยูเครนที่ปฎิบัติหน้าที่ซึ่งต้องพึ่งสิ่งเหล่านี้เพื่อปกป้องชีวิตตนเองและเพื่อนทหาร รวมไปถึงความเชื่อมั่นในมิตรภาพที่สหรัฐฯ หยิบยื่นให้ แหล่งข่าวยูเครนเผย
ผู้เชี่ยวชาญได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า ปัญหาการส่งยุทโธปกรณ์หมดอายุการใช้งานไปให้ยูเครนเป็นคำถามที่ทางวอชิงตันต้องตอบถึงความมุ่งมั่นของอเมริกาในพันธสัญญาต่อสงครามยูเครนที่ย่างเข้าสู่ปีที่ 2 ในขณะที่ฝ่ายตรงข้าม กบฏยูเครนกลับได้รับการสนับสนุนจากมอสโกอย่างต่อเนื่อง กองคาราวานอาวุธทันสมัยจากรัสเซียยังคงหลั่งไหลข้ามฝั่งเข้ามายังยูเครนตะวันออก
นอกจากนี้ วอชิงตันโพสต์ยังรายงานเพิ่มเติมว่า ในไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา การปะทะระหว่างทั้งสองฝ่ายกลายเป็นความรุนแรงดุเดือด ที่มีรายงานการสูญเสียในฝั่งยูเครนเกือบจะรายวัน และในเดือนที่ผ่านมาพบว่า มีทหารยูเครนถึง 5 นายเสียชีวิตรวดเดียวภายในแค่ 1 วัน
แหล่งข่าวหน่วยรบพิเศษยูเครนอีกนายให้ความเห็นว่า “ไม่ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร แต่นี่ยังคงเป็นสงครามที่มีการเสียชีวิต”
ในขณะที่โฆษกเพนตากอน โจ โซเวอร์ส (Joe Sowers” ปฎิเสธที่จะตอบคำถามกับวอชิงตันโพสต์ในเรื่องนี้ถึงสภาพยุทโธปกรณ์ แต่ในแถลงการณ์ที่ส่งผ่านทางอีเมล โซเวอร์สชี้แจงว่า ทางสหรัฐฯ จะยังคงที่ส่งยุทโธปกรณ์และการฝึกให้กับกองทัพยูเครนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทางยูเครนสามารถปกป้องพรมแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สื่อสหรัฐฯ รายงานต่อว่า มีการให้ความเห็นจากแหล่งข่าวเพนตากอนถึงเหตุผลการส่งยุทโธปกรณ์มือสองไปให้ยูเครนว่า สหรัฐฯ จำเป็นต้องจัดส่งอุปกรณ์ทางการทหารที่ใกล้หมดสภาพไปให้ยูเครน เพื่อต้องการให้กองทัพยูเครนสามารถมีอุปกรณ์เหล่านี้ไว้ใช้ได้อย่างทันท่วงทีเพื่อเริ่มทำการสู้รบกับกลุ่มกบฎในยูเครนตะวันออก
โดยแหล่งข่าวระดับสูงเพนตากอนได้ยอมรับเป็นครั้งแรกกับวอชิงตันโพสต์ว่า สหรัฐฯ ตั้งรับไม่ทันในการเข้ามาของรัสเซียในสงครามยูเครนตะวันออก และจำเป็นต้องหาทางโยกงบประมาณจากที่ใดที่หนึ่งเพื่อมาตอบความช่วยเหลือยูเครน “เราต้องการให้ยุทโธปกรณ์ไปถึงที่นั่นในทันที แต่ปัญหาคือเราไม่มีเงินพอสำหรับสงครามนี้” แหล่งข่าวระดับสูงเพนตากอนกล่าว และเสริมต่อว่า “นี่ต้องหมายความว่าทุกอย่างเพอร์เฟกเช่นนั่นหรือ? ไม่หรอก”
วอชิงตันโพสต์ยังรายงานต่อว่า อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทางยูเครนได้รับยุทโธปกรณ์ใช้แล้วและเก่าเกือบสิ้นสภาพจำนวนมากเท่าใด แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ยุทโธปกรณ์ใหม่เอี่ยมที่สหรัฐฯได้มอบให้กับยูเครนนั้นเป็นกล้องส่องกลางคืน และรวมไปถึง อุปกรณ์เวชภัณฑ์ในสนามรบ ซึ่งอาจจะรวมไปถึง ผ้าพันแผล และยาต่างๆ และหน่วยรบยูเครนยังได้รับอุปกรณ์ต่อต้านการรบต่างๆ เป็นต้นว่า ระบบเรดาร์ต่อต้านปืนใหญ่ ระบบเครื่องมือสื่อสาร เป็นต้น
นอกจากนี้ สื่อสหรัฐฯ รายงานต่อว่า นอกเหนือจากรถฮัมวีล้าสมัยที่พบในยูเครนตะวันออกแล้ว วอชิงตันโพสต์ยังพบว่า ยังมีการจัดส่งรถฮัมวีรุ่นใกล้หมดสภาพการใช้งานอีกจำนวน 100 คัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการช่วยเหลือทางการทหารให้กับยูเครนสำหรับการส่งยุทโธปกรณ์พิเศษตามสภาพไปให้กับรัฐต่างชาติ
แหล่งข่าวเพนตากอนเปิดเผยว่า “โครงการความช่วยเหลือนี้ได้ส่งมอบยุทโธปกรณ์ที่ถูกทิ้งไว้ในโกดังสรรพาวุธเป็นเวลานาน และไม่สามารถปรับปรุงได้” แหล่งข่าวยังกล่าวต่อว่า “ในบางกรณี รถฮัมวี่เหล่านี้ถูกส่งมอบในฐานะเป็นอะไหล่ เพราะไม่สามารถนำออกมาวิ่งใช้งานได้แล้ว และทำได้อย่างเดียวคือถอดออกเป็นอะไหล่สำรอง”
การส่งยุทโธกรณ์หมดอายุไปให้แก่ยูเครน สร้างภาระมากกว่าสร้างสมรรถนะในสงคราม เช่น ยูเครนต้องใช้เงินถึง 1,000 ดอลลาร์เพียงเพราะต้องสั่งซื้อยางเพื่อเปลี่ยนใหม่ให้กับรถฮัมวี และจะใช้งบประมาณน้อยกว่ามากหากใช้เงินจำนวนเดียวกันนี้ซื้อรถ SUV ราคาถูกไว้ใช้สอยแทน
พ.ท.อันเดร (Lt. Col. Andrei) หัวหน้ารบปฏิบัติการยูเครนนายหนึ่งออกมาให้ความเห็นกับวอชิงตันโพสต์ทิ้งท้ายในเรื่องนี้ว่า “ทำไมผมต้องคอยเสียเงินเพื่อเปลี่ยนยางในจำนวนเงินที่สามารถซื้อรถราคาถูกได้ถึง 1 คันได้”
