xs
xsm
sm
md
lg

In Pics: ทีมสอบสวนเริ่มขนซาก MH17 ส่งกลับเนเธอร์แลนด์ - เปโรเชนโก ประกาศ “พร้อมรบกับรัสเซียเต็มรูปแบบ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ /เอเอฟพี - ทีมสอบสวนนานาชาติเริ่มต้นเคลื่อนย้ายซากขนาดใหญ่ของ MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส จากจุดตกทางตะวันออกของยูเครนหลังจากทิ้งไว้ไม่ต่ำกว่า 4 เดือนเนื่องมาจากเหตุไม่สงบในพื้นที่ซึ่งเกิดจากการปะทะระหว่างกองกำลังกลุ่มกบฎยูเครนและเคียฟ ในขณะที่วันนี้(17)เอเอฟพีรายงานว่า กลังจากประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ต้องบินกลับกรุงมอสโกก่อนกำหนด สื่อVedomosti business daily ตำหนิถึงการต้อนรับผู้นำรัสเซียไม่สมศักดิศรี พร้อมชมการตัดสินใจที่ไม่อยู่ร่วมจนปิดการประชุม G20 ในบริสเบน ด้านประธานาธิบดียูเครน เปโตร โปโรเชนโก ได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เยอรมัน บิลด์ ในระหว่างเยือนบราติสลาวาว่า ยูเครนต้องการสันติภาพ แต่ยังพร้อมรบกับรัสเซีย หลังพบรายงานกองทัพรถถังมุ่งหน้าเข้ายูเครนตะวันออก

เดอะการ์การ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(16)ว่า เจ้าหน้าจากกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของสาะธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ที่อยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลกบฎยูเครนตะวันออกได้เริ่มต้นลากซากชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของเครื่องบินโบอิ้ง 777 ออกจากจุดตกในช่วงเช้าวันอาทิตย์(16)

ซึ่งการเคลื่อนย้ายเศษซากทั้งหมดขึ้นรถบบรทุกเพื่อนำออกจากสถานที่เกิดเหตุในโดเนตสค์นั้นอยู่ในการควบคุมของทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศผู้นำทีมสอบสวนนานาชาติถึงสาเหตุการตกของ MH17ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และในการกำกับการเคลื่อนย้ายครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่จาก OSCE ของสหภาพยุโรปร่วมอยู่ด้วย

“วันนี้ถือเป็นการเริ่มต้นเคลื่อนย้ายซากเครื่องบินโดยสารเที่ยว MH17ออกจากสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งคมนาคมเนเธอแลนด์เป็นหนึ่งในทีมการตรวจสอบสาเหตุการตกจะรับผิดชอบการนำชิ้นส่วนกลับเนเธอร์แลนด์เพื่อการสอบสวน” ทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนนานาชาติแถลง

สื่ออังกฤษรายงานว่า ชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของ MH17 จะถูกตัดเป็นชิ้นเล็กก่อนขนขึ้นรถไฟสินค้าไปยังคาร์คีฟ ที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลยูเครนก่อนที่ชิ้นส่วนเหล่านี้จะถูกนำขึ้นเครื่องบินส่งกลับไปยังเนเธอร์แลนด์เพื่อการตรวจสอบต่อไป

อย่างไรก็ตามตัวแทนจากกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของกลุ่มกบฎยูเครนให้ความเห็นว่า ปฎิบัติการเคลื่อนย้ายซากออกจากจุดตกอาจต้องใช้เวลานานถึง 10 วันด้วยกัน และทางเจ้าหน้าที่จะเริ่มเคลื่อนย้ายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของลำตัวเครื่องบินเป็นอันดับแรก

ทั้งนี้การเคลื่อนย้ายซากเครื่องบินออกจากพื้นที่ถูกเลื่อนมาหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบที่มีการสู้รบระหว่างกองกำลังกบฎยูเครนและแนชันแนลการ์ดของเคียฟ รวมไปถึงการเลื่อนกำหนดที่เจ้าหน้าที่จะสามารถเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุได้เนื่องจากความไม่ปลอดภัยภายในพื้นที่

ในขณะเดียวกัน ล่าสุดในวันศุกร์(14)หลังจากทีวีรัสเซียได้เปิดเผยรายงานพิเศษภาพถ่ายดาวเทียมแสดงช่วงวินาทีที่ MH17 แต่รอยเตอร์รายงานต่อมาว่า บรรดานักวิจารณ์จากชาติตะวันตกชี้ว่าภาพที่เปิดเผย เป็นฝีมือการจัดฉากของรัสเซีย จากข้อสันนิษฐานหลายประการ เช่น ลักษณะพื้นที่ภูมิศาสตร์ สภาพบรรยากาศ รวมไปถึง ลักษณะรูปร่างเครื่องบิน

โดยเบลลิงแคท อธิบายว่า เมื่อนำภาพดังกล่าวมาเทียบกับเส้นทางการบินของ MH17 (เส้นสีฟ้าในรูป) จะเห็นว่าเครื่องบินในรูปอยู่นอกเส้นทางการบิน ขณะที่หลายส่วนของรูปดังกล่าวก็เกิดจากการนำภาพถ่ายดาวเทียมมาปะติดปะต่อกัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีส่วนหนึ่งที่ถูกนำมาจาก "กูเกิล เอิร์ท" ซึ่งถ่ายไว้ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2012 (co-ords 47°57’12.22″N, 37°50’4.09″E)
       
ส่วนภาพบริเวณจุดที่แสดงให้เห็นถึงเครื่องบินรบยูเครนนั้น เบลลิงแคท ระบุว่าเป็นภาพที่นำมาจาก "แยนเด็กซ์ แมพ" ของรัสเซีย แถมเครื่องบินรบที่เห็นในภาพก็ไม่น่าจะใช่ "ฟรอกฟุต" หรือเครื่องบินโจมตีภาคพื้นดิน เอสยู-25 ตามที่สื่อรัสเซียกล่าวอ้าง แต่ดูใกล้เคียงกับเครื่องบิน เอสยู-27 มากกว่า
       
อีกหนึ่งจุดสังเกตก็คือ โลโก้บนเครื่องบินโดยสารที่เห็นในภาพนั้นไม่สอดคล้องกับโลโก้ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ที่ปกติจะมีคำว่า "มาเลเซีย" อยู่บริเวณเหนือปีก แต่ในภาพถ่ายจะเห็นได้ว่ามีโลโก้ตัวหนังสืออยู่บริเวณเยื้องไปทางด้านหน้า ซึ่งน่าจะเป็นโลโก้ตัวหนังสือคำว่า "โบอิ้ง" มากกว่า ด้วยเหตุนี้คำกล่าวอ้างของสื่อรัสเซียจึงไม่มีความน่าเชื่อถือ เครื่องบินในรูปก็ไม่น่าจะใช่ MH17 

และเดลิเมล สื่ออังกฤษ รายงานเพิ่มเติม ถึงวิดีโอคลิปล่าสุดที่เพิ่งเปิดเผย และถ่ายโดยมือสมัครเล่น สามารถจับภาพเกิดเหตุหลัง MH17ตก และปรกฎควันดำขนาดใหญ่ปกคลุมท้องฟ้า และชาวบ้านในท้องที่แตกตื่น



การตกของเครื่องบินโบอิ้ง 777 รวมทั้งถานการณ์ความไม่สงบในยูเครนตะวันออกยังเป็นข้อถกเถียงและกลายเป็นประเด็นร้อนในการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ที่นายกรัฐบาลออสเตรเลีย โทนี แอบบ็อต ต้องการให้ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ออกมาขอโทษในกรณีการตกของ MH17 ที่บรรดาชาติตะวันตกเข้าใจว่าเป็นฝีมือของกบฎยูเครนใช้เครื่องยิงขีปนาวุธ BUK แบบจากภาคพื้นดินสู่อากาศสัญชาติรัสเซียยิงตก หลังจากได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธและกองกำลังจากรัสเซีย ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ผู้นำ G20 จากชาติตะวันตกกดดันปูตินอย่างหนักในการประชุมซึ่งจัดขึ้นที่บริสเบน โดยประกาศต้องการให้รัสเซียวางมือการสนับสนุนกลุ่มกบฎยูเครน รวมถึงแสดงอาการโดดเดี่ยวปูตินอย่างเห็นได้ชัด และเป็นสาเหตุทำให้ผู้นำรัสเซียต้องเดินทางกลับกรุงมอสโกก่อนกำหนด แต่จากการให้สัมภาษณ์ของปูติน ผู้นำรัสเซียปฎิเสธว่า เขาไม่ได้ถูกกดดันจนต้องหนีกลับก่อนกำหนด แต่เป็นเพราะต้องการพักผ่อนเพราะระยะการเดินทางที่ไกลถึง 18 ชม.ทำให้ล้า แต่กระนั้นสื่ออังกฤษ เดลิเมลได้เปิดเผยภาพที่ไม่ความสุขของผู้นำรัสเซียตลอดช่วงเวลาที่ต้องอยู่ร่วมกับผู้นำชาติตะวันตก นับตั้งแต่โดนประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ปฎิบัติด้วยอย่างเย็นชา สื่ออังกฤษยังรายงานว่า ผู้นำรัสเซียถูกทิ้งให้รับประทานอาหารเย็นเพียงลำพัง

ซึ่งในการแถลงข่าวกับสื่อในออสเตรเลียเมื่อวานนี้(16) โอบามาย้ำว่าเขาต้องการแสดงให้ปูติน ผู้นำรัสเซียเห็นว่า ปฎิกริยาของเขาต่อปูตินนั้นเป็นไปในลักษณะที่ “ต้องการให้ปูตินรับรู้ถึงสิ่งที่ชาติตะวันตกไม่พอใจในขณะนี้” โดยเขากล่าวว่า “ชาติตะวันตกไม่ต้องการโดดเดี่ยวรัสเซีย แต่ต้องการให้รัสเซียให้ความร่วมมือในการลดสถานการณ์ความตรึงเครียดในยูเครน”

โดยเอเอฟพีได้รายงานในวันนี้(17)ว่า หลังจากที่ปูตินเดินทางออกจากบริสเบน เพราะได้รับการต้อนรับอย่างเย็นชาจากบรรดาชาติตะวันตก ล่าสุดสื่อธุรกิจรัสเซีย  Vedomosti business daily ออกมาเยินยอการตัดสินใจครั้งนี้ เพราะทำให้หลบเลี่ยงไม่ต้องตอบคำถามถึงเรื่องไร้สาระต่างๆ แต่ยังสามารถประสบความสำเร็จในการเจรจาสำคัญได้ “การที่เดินทางกลับรัสเซียก่อนกำหนดมีข้อดี เพราะผู้นำรัสเซียไม่จำเป็นต้องอยู่ทนฟังกับท่าทีก้าวร้าวของเหล่าผู้นำชาติตะวันตกที่จะมีการออกแถลงการณ์ในวันสุดท้ายของการประชุม และอีกทั้งนี้เห็นได้ชัดว่า ประธานาธิบดีปูตินถูกปฎิบัติอย่างไม่ให้เกียรติ”

นอกจากนี้สื่อธุรกิจรัสเซียยังชี้ว่า ปูตินถูกเจ้าภาพไม่ต้อนรับอย่างสมฐานะผู้นำประเทศ จัดให้ปูตินอยู่ในโรงแรมที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงการจัดตำแหน่งการถ่ายภาพของปูตินไปอยู่บริเวณด้านข้าง ในขณะที่ผู้นำชาติอื่น เช่น ประธานาธิบดีสหรัฐฯถูกวางในตำแหน่งตรงกลาง

และสื่อรัสเซียยังรายงานเพิ่มเติม จากการให้สัมภาษณ์ของดมิตรี เพสคอฟ เลขาธิการประธานาธิบดีรัสเซียถึงคำสนทนาระหว่างปูตินและนายกรัฐมนตรีแคนาดาในระหว่างการจับมือทักทายว่า ต้องการเขย่ามือของผู้นำรัสเซียจนกระทั่งยอมปล่อยมืออกจากยูเครน และผู้นำรัสเซียตอบกลับไปในขณะนั้นว่า “คงเห็นจะไม่ได้เพราะไม่มีชาวรัสเซียอยู่ในยูเครน”

นอกจากนี้เอฟพีรายงานยังเพิ่มเติมว่า ประธานาธิบดียูเครน เปโตร โปโรเชนโก ให้สัมภาษณ์กับสื่อเยอรมัน หนังสือพิมพ์บิล์ด ในขณะที่เยือนบราติสลาวา (Bratislava) เยอรมัน เมื่อวานนี้(16)ว่า ถึงแม้ยูเครนจะต้องการสันติ แต่พร้อมที่จะเข้าสู่การรบอย่างเต็มรูปแบบกับรัสเซีย พร้อมทั้งชี้ว่า การสู้รบกับกลุ่มกบฎในยูเครนสามารถยุติได้ภายใน 2 สัปดาห์หากแผนสันติภาพที่ลงนามร่วมกันในมินสค์ในเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้นถูกใช้อย่างแท้จริง

“ผมไม่หวั่นที่จะสูรบอย่างเต็มรูปแบบกับกองทัพรัสเซีย ทางยูเครนเตรียมพร้อมในสถานการณ์สงครามที่อาจต้องเกิดขึ้น” โปโรเชนโกกล่าว

การให้สัมภาษณ์ของผู้นำยูเครนมีขึ้นหลังในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้บัญชากาสูงสุดของกองกำลังสหรัฐฯในนาโต พลเอก ฟิลิป บรีดเลิฟ ได้ให้สัมภาษณ์ถึง เห็นความเคลื่อนไหวกองกำลังรบของรัสเซีย ที่ส่วนใหญ่เป็นรถถัง ระบบต่อสู้อากาศยาน และอื่นๆแล่นเป็นแนวมุ่งหน้าเข้าสู่เขตแดนยูเครน

แต่นักวิเคราะห์ทางการทหารชี้ว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่ยูเครนและรัสเซียจะเปิดสงคราม เพราะจำนวนกองกำลังที่ถูกพบมุ่งหน้าเข้ายูเครนไม่มีจำนวนมากพอที่จะมีศักยภาพสามารถเปิดสงคราเต็มรูปแบบได้














กำลังโหลดความคิดเห็น