รอยเตอร์ - เมื่อวานนี้(30) กองทัพยูเครนแถลง พบกองคาราวานบรรเทาทุข์จำนวน 106 จากรัสเซียล่วงล้ำเข้ายูเครนตะวันออกโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลยูเครน ซึ่งทางกองทัพยูเครนคาดว่าทางมอสโกแอบใช้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมบังหน้าเพื่อหวังส่งยุทโธปกรณ์ให้กับกลุ่มกบฎยูเครน ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 8 นับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(30)ว่า โดเนตสค์ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกบฎยูเครน มีการสู้รบอย่างต่อเนื่องในบริเวณใกล้เคียงกับสนามบินท้องถิ่น ซึ่งทั้งสองฝ่ายทั้งแนชันแนลการ์ดและกลุ่มกบฎผลัดกันโจมตีถึงแม้จะหลังจากที่ทั้งสองฝ่ายลงนามสงบศึกในวันที่ 5 กันยายนแล้วก็ตาม
และในช่วงเวลาต่อมาหลังจากการสู้รบเริ่มยืดเยื้อ เกิดวิกฤตขาดอาหารและเครื่องอุปโภค รวมไปถึงยารักษาโรคขึ้นในบริเวณเขตอิทธิพลของกลุ่มกบฎอย่างร้ายแรง ทำให้รัสเซียต้องจัดส่งคาราวานบรรเทาทุกข์ไปให้ และเป็นผลทำให้เคียฟที่ฝ่ายหนุนยะวันตกออกโรงประนาม “สิงโตยอมแบ่งอาหารเพื่อหวังเปิดทางไปหากลุ่มแบ่งแยกดินแดนเพียงเพื่อจะแอบซ่อนยุทโธปกรณ์ในรูปคาราวานอาหารไปให้คนเหล่านั้น” แอนดรีย์ ไลเซนโก ( Andriy Lysenko) โฆษกกองทัพยูเครนแถลงสรุปผ่านทางโทรทัศน์
ซึ่งการส่งความช่วยเหลือของรัสเซียล่าสุดถือเป็นครั้งที่ 8 นับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งสื่อรัสเซีย RIA รายงานโดยอ้างแถลงการของกระทรวงฉุกเฉินรัสเซียว่า คาราวานเพื่อมนุษยธรรมสู่ยูเครนตะวันออก 7 ครั้งแรกนั้นมีน้ำหนักถึง 9,500 ตัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาหาร อุปกรณ์ก่อสร้าง และยา
ด้านพยานในเหตุการณ์ที่โดเนตสค์ให้สัมภาษณ์ถึงการปะทะที่เกิดขึ้นว่า มีการตอบโต้ไปมาจากทั้งฝั่งกองทัพยูเครนและกลุ่มกบฎยูเครน ที่เสียงดังสามารถได้ยินมาจากทางทิศที่ตั้งของสนามบินท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่าได้ทำการครอบครอง
และทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันถึงการละเมิดสัญญาหยุดยิง
ทั้งนี้โฆษกกองทัพยูเครนแถลงว่า ภายใน 24 ชม.ที่ผ่านมา นายทหารยูเครน 3 นาย และชาวบ้านวัย 82 ปีถูกสังหาร รวมถึงมีผู้บาดเจ็บ 15 คน