xs
xsm
sm
md
lg

“โดนัลด์ ทรัมป์” จี้สหรัฐฯ งัดเทคนิค “กรอกน้ำ” ทรมานนักโทษมาใช้ใหม่-ชี้เรื่องขี้ปะติ๋วถ้าเทียบกับความเลว “ไอเอส”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ วัย 69 ปี เต็งหนึ่งในศึกชิงตัวแทนพรรครีพับลิกันเพื่อลงชิงชัยในสนามเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016
เอเอฟพี - โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีนักลงทุนและดาราเรียลลิตีโชว์ซึ่งเป็นผู้สมัครตัวเก็งในศึกชิงตัวแทนพรรครีพับลิกัน เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ นำเทคนิคการสอบสวนด้วยวิธี “กรอกน้ำให้สำลัก” (waterboarding) กลับมาใช้ใหม่ โดยระบุว่าการทรมานแค่นี้เป็นเรื่อง “ขี้ปะติ๋ว” เมื่อเทียบกับสิ่งที่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) กำลังทำอยู่

นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่มหาเศรษฐีปากเปราะออกมาเสนอแนวคิดดุเดือดในการตอบโต้ผู้ก่อการร้าย หลังเกิดเหตุวินาศกรรมปารีสเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ซึ่งดูเหมือนจะทำให้คะแนนนิยมของ ทรัมป์ ตีตื้นขึ้นมาได้

ผลสำรวจล่าสุดจากวอชิงตันโพสต์/เอบีซีนิวส์ พบว่า ทรัมป์ พลิกกลับมาเป็นเต็งหนึ่งของสายรีพับลิกัน ด้วยคะแนนนิยมร้อยละ 32 แซงหน้าคู่แข่งอย่างศัลยแพทย์ เบน คาร์สัน อยู่ประมาณ 10 แต้ม

หลังจุดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ด้วยการเสนอให้ “ขึ้นทะเบียน” ชาวมุสลิมทั่วสหรัฐฯ เมื่อไม่กี่วันก่อน ล่าสุดมหาเศรษฐีวัย 69 ปีก็ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวเอบีซีว่า ตนสนับสนุนให้รัฐบาลสอบสวนผู้ต้องหาก่อการร้ายด้วยวิธีกรอกน้ำ

“ถ้าเป็นผม ผมจะนำวิธีนี้กลับมาใช้ใหม่ ผมว่าการกรอกน้ำให้สำลักเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว เมื่อเทียบกับสิ่งที่พวกไอเอสคิดจะทำกับเรา สิ่งที่พวกเขากำลังทำกับเรา และสิ่งที่พวกเขาได้ทำไปแล้วตอนที่ใช้มีดตัดศีรษะ เจมส์ โฟลีย์”

“มันเป็นความโหดร้ายคนละระดับกันเลย และผมก็จะเอาวิธีสอบสวนที่รุนแรงเด็ดขาดกลับมาใช้ใหม่แน่นอน”

การกรอกน้ำให้สำลัก ซึ่งเป็นวิธีไต่สวนผู้ต้องหาก่อการร้ายที่สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) เคยนำมาใช้หลังเกิดเหตุวินาศกรรม 9/11 ถูกนานาชาติประณามว่าเป็นการทารุณกรรม เพราะทำให้ผู้ต้องหารู้สึกทรมานไม่ต่างจากคนที่กำลังจะจมน้ำตาย

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้สั่งห้ามใช้เทคนิคสอบสวนเช่นนี้ หลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศในปี 2009

หลังถูกสังคมติเตียนและถูกผู้สมัครคู่แข่งโจมตีอย่างหนักที่เสนอให้มีการติดตามความเคลื่อนไหวชาวมุสลิมและสั่งปิดมัสยิด ล่าสุด ทรัมป์ ได้ออกมาผ่อนจุดยืน โดยบอกว่า “ผมไม่ได้ต้องการให้ปิดมัสยิด แค่ขอให้จับตากิจกรรมภายในนั้นเท่านั้นเอง”

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยังคงยืนยันให้จัดทำฐานข้อมูลประชากรมุสลิม โดยเสริมว่าควรจะมีการขึ้นทะเบียนผู้ลี้ภัยซีเรียที่เดินทางเข้ามายังสหรัฐฯ ด้วย เพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีที่อาจแฝงตัวมากับ “ม้าไม้” เหมือนในมหากาพย์อีเลียดเรื่องสงครามกรุงทรอย

แม้ผู้สังเกตการณ์หลายคนจะมองว่า กระแสข่าววินาศกรรมปารีสเป็นโอกาสที่ผู้สมัครชิงตัวแทนพรรคต่างๆ จะเรียกคะแนนนิยมให้ตนเองเพิ่มขึ้น แต่ผลสำรวจล่าสุดกลับยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก

ทรัมป์ และ คาร์สัน ยังคงรั้งตำแหน่งตัวเก็งเบอร์ 1 และ 2 ในกลุ่มผู้สมัครสายรีพับลิกัน ส่วน ส.ว.มาร์โก รูบิโอ จากรัฐฟลอริดา มีคะแนนร้อยละ 11 ตามมาเป็นที่ 3 จากผลโพลของวอชิงตันโพสต์/ เอบีซีนิวส์ ในขณะที่ เจบ บุช ซึ่งโดดเด่นจากการเป็น “บุตรชาย” และ “น้องชาย” ของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับมีคะแนนนิยมร่วงลงไปเหลือแค่ร้อยละ 6 ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 2 ปีที่มีการทำโพล

กำลังโหลดความคิดเห็น