xs
xsm
sm
md
lg

UN มีมติให้นานาชาติใช้ “ทุกมาตรการที่จำเป็น” ในการปราบ "ไอเอส"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันศุกร์ (20 พ.ย.) อนุมัติให้นานาชาติใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อปราบปรามกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) หลังเกิดเหตุโจมตีครั้งใหญ่ในปารีสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

มติซึ่งฝรั่งเศสเป็นผู้ร่างขึ้นเรียกร้องให้ชาติสมาชิกยูเอ็น “เพิ่มความร่วมมือและความพยายามอีกเป็น 2 เท่าในการป้องกันและสกัดการโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย” ไม่ว่าจะเป็นไอเอส หรือกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์

ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งแดนน้ำหอมกล่าวชื่นชมประกาศของยูเอ็น โดยชี้ว่ามตินี้จะ “ช่วยระดมพลังทุกชาติในการกำจัดดาเอช (IS)” ซึ่งได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบเหตุวินาศกรรมปารีสเมื่อวันที่ 13 พ.ย.

โลรองต์ ฟาเบียส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ระบุว่า ทุกประเทศจะต้องหาวิธีต่อสู้อย่างจริงจัง “ทั้งในด้านการทหาร การเจรจาทางการเมือง หรือการตัดท่อน้ำเลี้ยงกลุ่มก่อการร้าย”

อย่างไรก็ตาม มตินี้ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณไฟเขียวให้แต่ละประเทศใช้ปฏิบัติการทางทหารได้อย่างถูกกฎหมาย และไม่ได้เอ่ยถึงมาตราที่ 7 ในกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งอนุมัติให้ใช้กำลังทหารด้วย

นักการทูตฝรั่งเศสชี้ว่า ถึงอย่างไรเสียมติยูเอ็นก็เป็นแรงสนับสนุนทางการเมืองในระดับนานาชาติต่อสงครามกวาดล้างไอเอส ซึ่งกำลังทวีความเข้มข้นยิ่งขึ้น หลังเกิดเหตุสังหารหมู่ 130 ศพที่ปารีส

มติดังกล่าวเรียกร้องให้ชาติสมาชิกยูเอ็น “ที่มีศักยภาพเพียงพอ ใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นตามกรอบกฎหมายระหว่างประเทศในดินแดนอิรักและซีเรียส่วนที่ถูกยึดครองโดยกลุ่มไอเอส หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า ดาเอช”

วิทาลีย์ เชอร์คิน เอกอัครราชทูตผู้แทนรัสเซียประจำยูเอ็น ย้ำว่ามตินี้เป็นเพียง “ข้อเรียกร้องทางการเมือง” เท่านั้น แต่ไม่ได้ “เปลี่ยนแปลงบริบททางกฎหมาย” ว่าด้วยการที่รัฐต่างๆ จะต่อสู้ลัทธิก่อการร้าย

มอสโกได้ร่างมติขึ้นมาอีกฉบับหนึ่งก่อนหน้านี้ ซึ่งมีเนื้อหาเรียกร้องให้นานาชาติร่วมกันกวาดล้างไอเอสโดยต้องได้รับความยินยอมพร้อมใจจากรัฐบาลซีเรียด้วย ทว่ามติดังกล่าวถูกปฏิเสธโดยสหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส ซึ่งยืนกรานจะไม่ร่วมมือกับประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด โดยเด็ดขาด

ชาติตะวันตกชี้ว่า การที่ อัสซาด ใช้ความรุนแรงปราบปรามพลเมืองเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ลัทธิก่อการร้ายเฟื่องฟู

มติของฝรั่งเศสกล่าวถึงไอเอสว่าเป็น “ภัยคุกคามร้ายแรงต่อสันติภาพและความมั่นคงของนานาชาติอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” โดยเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตร และหาวิธีสกัดกั้นไม่ให้นักรบต่างชาติหลั่งไหลเข้าไปยังอิรักและซีเรียเพิ่มขึ้น

ทางการยุโรปเชื่อว่า อับเดลฮามิด อาบาอูด วัย 28 ปี ผู้บงการเหตุโจมตีปารีสซึ่งเป็นชาวเบลเยียมเชื้อสายโมร็อกโก น่าจะเคยเดินทางไปเข้าร่วมกับไอเอสในซีเรีย และได้รับการฝึกฝนให้กลับเข้ามาก่อเหตุโจมตีในยุโรป

มติของยูเอ็นยังประณามการก่อการร้าย “ด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุด” ไม่ว่าจะในปารีสหรือเบรุต และเอ่ยถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นในตูนิเซีย ตุรกี และอียิปต์ ในปีนี้ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น