รอยเตอร์ - รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเตือนทั่วโลกอย่ามองข้ามภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธ “มุสลิมอุยกูร์” ที่ก่อความไม่สงบในมณฑลซินเจียงทางภาคตะวันตกของจีน ระบุควรเป็น “ส่วนสำคัญ” ในสงครามต่อต้านก่อการร้าย หลังเกิดเหตุโจมตีครั้งใหญ่ขึ้นที่กรุงปารีส
เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในมณฑลซินเจียงซึ่งมีชาวมุสลิมอุยกูร์อาศัยอยู่มาก รวมถึงภูมิภาคอื่นๆ ของจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วหลายร้อยคนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ทางการจีนกล่าวโทษว่าเหตุการณ์ความไม่สงบทั้งหลายเป็นฝีมือกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ ซึ่งนำโดยขบวนการอิสลามเตอร์กีสถานตะวันออก (East Terkestan Islamic Movement - ETIM) ที่อ้างว่ามีสายสัมพันธ์กับอัลกออิดะห์
เมื่อไม่นานนี้ รัฐบาลปักกิ่งระบุว่ามีชาวอุยกูร์จำนวนหนึ่งเดินทางไปยังซีเรีย เพื่อสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) และนักรบกลุ่มอื่นๆ
ระหว่างการประชุมซัมมิต G20 ที่ตุรกีเมื่อวานนี้ (15 พ.ย.) หวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้เรียกร้องให้ประชาคมโลกจัดตั้ง “แนวร่วมต่อสู้ลัทธิก่อการร้าย” หลังจากฝรั่งเศสต้องเผชิญความสูญเสียครั้งใหญ่จากฝีมือนักรบอิสลามิสต์
“องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ควรแสดงบทบาทผู้นำในการต่อสู้ลัทธิก่อการร้าย และควรมีการจัดตั้งแนวร่วมเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว” สำนักข่าวซินหวาของจีนรายงานคำพูดของ หวัง
“จีนเองก็ตกเป็นเหยื่อการก่อการร้ายเช่นกัน และการปราบปรามกลุ่ม ETIM ก็น่าจะเป็นส่วนสำคัญของแผนต่อสู้ลัทธิก่อการร้ายในระดับสากล”
ยูเอ็นและสหรัฐฯ ประกาศขึ้นบัญชี ETIM เป็นองค์กรก่อการร้าย หลังเกิดเหตุวินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติส่วนใหญ่ยังไม่แน่ใจว่า ETIM เป็นเครือข่ายกลุ่มติดอาวุธที่เข้มแข็งอย่างที่จีนพยายามกล่าวอ้างจริงหรือไม่
องค์กรสิทธิมนุษยชนและผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ชี้ว่า เหตุรุนแรงในมณฑลซินเจียงเกิดจากความโกรธแค้นของชาวมุสลิมอุยกูร์ที่ถูกทางการปักกิ่งกดขี่และจำกัดเสรีภาพในการนับถือศาสนา มากกว่ากิจกรรมของกลุ่มก่อการร้าย
สำนักข่าวซินหวายังระบุด้วยว่า ETIM เคยออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีอย่างน้อย 3 ครั้งในจีน รวมถึงกรณีคนร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อเดือน ต.ค. ปี 2013 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย
สื่อรัฐบาลจีนพยายามเชื่อมโยง “สงครามกวาดล้างกลุ่มก่อการร้าย” ในจีนกับเหตุวินาศกรรมในปารีส โดยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ หนังสือพิมพ์ของปักกิ่งได้โพสต์ภาพตำรวจติดอาวุธจีนกำลังปฏิบัติภารกิจกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธในซินเจียง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการจงใจเผยแพร่ภาพในช่วงที่ทั่วโลกกำลังหวาดผวากับข่าวการโจมตีในฝรั่งเศส