xs
xsm
sm
md
lg

ปากีสถานระบุกำจัด “กลุ่มติดอาวุธอุยกูร์” ออกจากประเทศหมดแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คาวาจา อาซิฟ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมปากีสถาน
รอยเตอร์ - ปากีสถานได้กำจัดสมาชิกของขบวนการอิสลามแห่งเตอร์กิสถานตะวันออก (ETIM) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาวอุยกูร์ออกจากดินแดนของประเทศหมดแล้ว แต่ต้องยังคอยระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่กลับมาอีก รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของประเทศนี้กล่าวในกรุงปักกิ่งในวันอาทิตย์ (18 ต.ค.)

จีนกล่าวหาว่ากลุ่ม ETIM อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีหลายครั้งในแคว้นซินเจียงทางภาคตะวันตกไกล บ้านของชาวมุสลิมเชื้อสายอุยกูร์ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญต่างชาติจำนวนมากจะสงสัยถึงการมีอยู่จริงของกลุ่มนี้ก็ตาม

จีน พันธมิตรหลักเพียงรายเดียวของปากีสถานในภูมิภาคนี้ เรียกร้องมานานแล้วให้อิสลามาบัดกำจัดสิ่งที่พวกเขาระบุว่าเป็นกลุ่มติดอาวุธจากซินเจียงที่กบดานอยู่ในเขตชนเผ่าไร้ขื่อแปแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่อยู่ของกลุ่มติดอาวุธตัวฉกาจหลากหลายกลุ่มรวมถึงกลุ่มตอลิบานและกลุ่มอัลกอดิดะห์

“เราเชื่อว่าพวกเขาถูกกำจัดหมดแล้ว” คาวาจา อาซิฟ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมปากีสถานบอกกับผู้สื่อข่าวนอกรอบการประชุมด้านความมั่นคง “ผมคิดว่าในพื้นที่ชนเผ่าต่างๆ เคยมีพวกเขาอยู่เพียงเล็กน้อย พวกเขาจากไปหรือถูกกำจัดไปหมดแล้ว ตอนนี้ที่นั่นไม่มีพวกเขาเหลืออยู่แล้ว”

อาซิฟกล่าวว่า มันเป็นผลประโยชน์ของปากีสถานมากๆ พอกับของจีนในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธชาวอุยกูร์ พร้อมปฏิเสธว่าปักกิ่งและอิสลามาบัดไม่ได้มีความคิดเห็นแตกต่างกันในเรื่องความพยายามของปากีสถานที่จะจัดการกับปัญหานี้

“การต่อสู้กับกลุ่ม ETIM เป็นศึกของเราด้วย ไม่ใช่เป็นแค่ของจีนเท่านั้น มันเป็นการต่อสู้กับกลุ่ม ETIM ร่วมกันระหว่างปากีสถานและจีน ดังนั้นจึงไม่มีความแตกต่างกันทางความคิดเห็นในเรื่องการกำจัดกลุ่ม ETIM ออกจากพื้นที่ชนเผ่าอย่างแน่นอน”

“ในระยะยาวเราต้องคอยระวังไม่ให้ภัยคุกคามนี้ เชื้อโรครายนี้กลับมาอีก”

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองแคว้นซินเจียงบางคนระบุว่า พวกเขาเชื่อว่าปากีสถานพยายามไม่มากพอในการขัดขวางไม่ให้ชาวอุยกูร์เดินทางไปยังที่นั่นเพื่อเปลี่ยนเป็นพวกหัวรุนแรง

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีคนตายหลายร้อยคนในความไม่สงบในแคว้นซินเจียง ผู้ถูกเนรเทศและนักเคลื่อนไหวหลายคนระบุว่าการที่จีนควบคุมศาสนาและวัฒนธรรมของชาวอุยกูร์เป็นสาเหตุของความรุนแรงดังกล่าวมากกว่ากลุ่มติดอาวุธที่มีประสิทธิภาพเสียอีก

จีนและปากีสถานต่างเรียกอีกฝ่ายว่า “มิตรทุกสถานการณ์” และความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของพวกเขามีความเหนียวแน่นยิ่งขึ้นจากการที่พวกเขาต่างไม่ไว้วางใจเพื่อนบ้านอย่างอินเดีย และความปรารถนาร่วมกันที่จะทำให้ภูมิภาคนี้พ้นจากอิทธิพลของสหรัฐฯ