เอเอฟพี - กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุในวันพฤหัสบดี (12 พ.ย.) ว่าได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-52 จำนวน 2 ลำ บินเข้าไปใกล้เกาะที่กำลังเป็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ซึ่งอ้างสิทธิ์โดยรัฐบาลแดนมังกร แล้วได้รับการแจ้งเตือนจากหอควบคุมการบินของจีน
นับเป็นการท้าทายครั้งล่าสุดจากสหรัฐฯ ที่มีต่อจีน ในเรื่องของหมู่เกาะสแปรตลีย์ หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว เรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี ยูเอสเอส แลสเซน ของสหรัฐฯ เพิ่งจะล่องผ่านเกาะเล็กเกาะน้อยในแนวปะการังซูบี บริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์
"เที่ยวบินที่ออกจากกวมและกลับไปยังที่นั่น เมื่อวันที่ 8 และ 9 พฤศจิกายนตามลำดับ มีเครื่องบิน บี-52 จำนวน 2 ลำ ที่ปฏิบัติภารกิจตามปกติในน่านฟ้าสากล บริเวณใกล้เคียงกับหมู่เกาะสแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้ ได้รับการแจ้งเตือนจากฝ่ายควบคุมภาคพื้นดินของจีน ทั้งที่ยังไม่ได้เข้าไปภายในระยะ 15 ไมล์ทะเลของสิ่งใดเลย" นาวาโท บิล เออร์บัน โฆษกเพนตากอน ระบุ
"เครื่องบินทั้งสองลำยังคงปฏิบัติภารกิจต่อโดยที่ไม่เกิดเหตุร้ายใดๆ ซึ่งตลอดเวลาที่ปฏิบัติภารกิจนั้นได้กระทำการสอดคล้องกับกฏหมายระหว่างประเทศอย่างเต็มที่" เขากล่าว
อเมริกายังบอกด้วยว่า การแปลงสภาพทางภูมิศาสตร์ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ให้กลายเป็นเกาะเทียมเพื่อสนับสนุนสิ่งปลูกสร้างทางทหารของจีนนั้น ถือว่าเป็นภัยคุกคามเสรีภาพในการเดินเรือบริเวณดังกล่าว
ที่ผ่านมา จีนยืนกรานครั้งแล้วครั้งเล่าว่าปกป้องเสรีภาพในการเดินเรือ แต่ขณะเดียวกัน กลับอ้างสิทธิ์อธิปไตยเหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ แม้กระทั่งบริเวณที่ใกล้กับชายฝั่งของประเทศอื่น
จากการพูดคุยกับนักข่าวในวันศุกร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน "หง เล่ย" ได้บอกว่า จีนต่อต้านการกระทำที่บั่นทอนอธิปไตยและความมั่นคงของจีน โดยใช้ข้ออ้างเรื่องเสรีภาพการเดินเรือและการบิน