รอยเตอร์ - หน่วยกู้ภัยปากีสถานสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตเกือบ 100 คนออกมาใต้จากซากโรงงานในเมืองลาฮอร์ซึ่งพังถล่มลงมาเมื่อวันพุธ (4 พ.ย.) โดยมีรายงานว่า เหยื่อจำนวนมากพยายามใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อญาติเพื่อขอความช่วยเหลือ ขณะที่ทางการปากีฯ ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตซึ่งขณะนี้ยังอยู่ที่ 18 รายอาจจะเพิ่มสูงขึ้นอีก
อาคารแห่งนี้เป็นที่ตั้งโรงงานผลิตถุงชอปปิ้ง อยู่ห่างจากตัวเมืองลาฮอร์ไปทางใต้ราวๆ 20 กิโลเมตร แม้จะพบผู้รอดชีวิตแล้วเกือบร้อยคน แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเตือนว่าคนงานส่วนใหญ่แออัดกันอยู่ในชั้นใต้ดินของอาคาร
“พวกเราทำงานอยู่ที่ชั้น 1 ตอนที่หลังคาถล่มลงมา” เลียกัต อาลี หนึ่งในคนงานติดอยู่ในซากอาคาร และให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นทางโทรศัพท์ กล่าว
“ตอนนี้ผมเริ่มได้ยินเสียงเครื่องจักรกลหนัก หวังว่าผมคงจะมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ได้”
เจ้าหน้าที่กู้ภัยระบุวานนี้ (4) ว่า ตอนที่โรงงานถล่มน่าจะมีคนงานอยู่ภายในอาคารราว 150 คน ทว่าเจ้าหน้าที่ต้องทำงานกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับผู้รอดชีวิต
คนงานที่ได้รับบาดเจ็บเล่าว่า เจ้าของโรงงานสั่งให้ต่อเติมชั้น 3 ของอาคารต่อไปโดยไม่ฟังคำทัดทานจากผู้รับเหมาหรือคนงานที่ต้องการให้หยุดก่อสร้าง หลังพบรอยแตกบนผนังซึ่งเป็นผลมาจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“ผู้รับเหมาแนะนำให้หยุดการก่อสร้าง เมื่อเห็นว่าผนังอาคารมีรอยร้าว เจ้าของโรงงานก็เลยทะเลาะกับเขาอย่างรุนแรง” มูฮัมหมัด รัมซาน คนงานรายหนึ่งบอกกับหน่วยกู้ภัยผ่านทางโทรศัพท์มือถือ
แผ่นดินไหวขนาด 7.5 ตามมาตราแมกนิจูด เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนหลายพันหลังในภาคเหนือของปากีสถานและอัฟกานิสถานพังเสียหาย และพบผู้เสียชีวิตมากกว่า 300 คน
มูฮัมหมัด อุสมาน เจ้าหน้าที่รัฐบาลปากีฯ ยืนยันว่า เจ้าของโรงงานถุงช้อปปิ้งเสียชีวิตในเหตุอาคารถล่มด้วย ขณะที่สื่อมวลชนยังไม่สามารถติดต่อผู้แทนฝ่ายจัดการโรงงานเพื่อขอสัมภาษณ์ได้
มูฮัมหมัด ยูนิส ภัตตี เจ้าหน้าที่จากสำนักงานกู้ภัยและช่วยชีวิตเอธี (Edhi) ระบุว่า เวลานี้สามารถช่วยคนงานออกมาได้อย่างน้อย 97 คน แต่ยังไม่ทราบว่ามีคนติดอยู่ในซากอาคารอีกมากน้อยเท่าใด
อุตสาหกรรมก่อสร้างในปากีสถานยังมีมาตรฐานความปลอดภัยค่อนข้างต่ำ อีกทั้งผู้รับเหมาก็มักจะฝ่าฝืนกฎระเบียบของทางการ