xs
xsm
sm
md
lg

Weekend Focus:โลกตะลึง !ธรณีพิโรธ 7.5 เขย่าปากีสถาน-อัฟกานิสถาน สังเวยหลายร้อยศพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เหตุแผ่นดินไหวซึ่งสามารถวัดความรุนแรงได้ถึงระดับ 7.5 ตามมาตราวัดแบบแมกนิจูด ที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ ที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมที่เรียกได้ว่า “ช็อกความรู้สึก” ของผู้คนทั่วโลกมากที่สุด ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเหตุแผ่นดินไหวที่ถูกขนานนามว่า “The 2015 Hindu Kush earthquake” นี้ ได้สร้างความเสียหายใหญ่หลวงทั้งต่อสิ่งปลูกสร้าง อาคารบ้านเรือน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะในปากีสถานและอัฟกานิสถาน

ข้อมูลของสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ “ยูเอสจีเอส” ระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.5 ตามมาตราแมกนิจูดดังกล่าวซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนไปเกือบทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียใต้ (South Asia) เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา มีจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเขตอะลากาห์ดารี-เย กิราน วา มุนจาน ของประเทศอัฟกานิสถานไปทางตอนเหนือราว 45 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปใต้ดินที่ระดับความลึกราว 210 กิโลเมตร

หลังเกิดแผ่นดินไหวระดับ 7.5 แมกนิจูดผ่านพ้นไปราว 40 นาที มีรายงานว่า ได้เกิดแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหวหรือที่เรียกว่า “อาฟเตอร์ช็อก” ที่วัดความรุนแรงได้ที่ระดับ 4.8 แมกนิจูดตามมา ยังไม่รวมถึงอาฟเตอร์ขนาดย่อม ๆ อีกอย่างน้อย 9 ครั้ง หลังจากนั้น

เหตุธรณีพิโรธที่เกิดขึ้นล่าสุดส่งผลให้มีตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 386 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้เสียชีวิตในประเทศปากีสถานและอัฟกานิสถาน ท่ามกลางการคาดหมายจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านภัยพิบัติจากทั่วโลกที่ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติหนนี้ อาจสูงกว่านี้อีกมาก และอาจพุ่งสูงแตะระดับ 1,000 ศพในไม่ช้า

แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวระดับ 7.5 แมกนิจูดในภูมิภาคเอเชียใต้ตลอดจนอาฟเตอร์ช็อก ที่เกิดขึ้นตามมาอีกหลายระลอกสามารถรับรู้ได้ทั่วไปไม่เพียงแต่ในปากีสถานและอัฟกานิสถานเท่านั้น แต่ทว่ามีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นไปไกลถึงทาจิกิสถานและคีร์กิสถาน ซึ่งเป็นอดีตดินแดนของสหภาพโซเวียตในภูมิภาคเอเชียกลาง รวมถึง กรุงนิวเดลีและแคว้นจัมมู-แคชเมียร์ของอินเดีย ตลอดจน มณฑลซินเจียงของสาธารณรัฐประชาชนจีน และกรุงกาฐมาณฑุ ที่เป็นนครหลวงของเนปาลด้วยเช่นเดียวกัน

เหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.5 ตามมาตราแมกนิจูดที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียใต้ล่าสุด ถือเป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำรอยเหตุธรณีพิโรธระดับ 7.6 แมกนิจูดในภูมิภาคแห่งนี้ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมปี 2005 หรือเมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเฉียด 87,400 ศพ รวมถึงมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 75,200 ราย และประชาชนอีกราว 2.8 ล้านชีวิต ต้องกลายเป็น “คนไร้บ้าน” ยังไม่รวมถึงจำนวนของปศุสัตว์อีกไม่ต่ำกว่า 250,000 ตัว ที่ต้องจบชีวิตจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวในครั้งนั้นที่มีศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ดินเพียงแค่ 15 กิโลเมตร

ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งในอัฟกานิสถานและปากีสถาน ต่างพยายามทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังแข่งขันกับเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด เพื่อเร่งจัดส่งความช่วยเหลือให้ถึงมือผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวขนาด 7.5 แมกนิจูด ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ (26) โดยมีรายงานว่า เวลานี้ บรรดาผู้ประสบภัยต่างต้องต่อสู้กับความหนาวเหน็บ และความหิวโหย ขณะยอดผู้เสียชีวิตนั้นคาดว่า จะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอีกมากมาย หากทีมกู้ภัย สามารถเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยอีกหลายจุดที่ยังคงถูกตัดขาดจากโลกภายนอก



อุปสรรคสำคัญที่ทำให้ภารกิจในการกู้ภัยแผ่นดินไหวระดับ 7.5 แมกนิจูดคราวนี้ ดำเนินไปได้ด้วยความยากลำบากนั่นคือ สภาพของเส้นทางคมนาคมที่ทุรกันดาร ระบบการสื่อสารถูกตัดขาด และสถานการณ์ด้านความมั่นคงที่ไว้วางใจไม่ได้โดยเฉพาะภัยคุกคามจากกลุ่มนักรบตอลิบาน และกลุ่มติดอาวุธสุดโต่งอื่น ๆ ที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ ทั้งในปากีสถานและอัฟกานิสถาน ซึ่งต่างเป็นอุปสรรคขัดขวางความพยายามในการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบเหตุแผ่นดิน ไหวคราวนี้

รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า บรรดาผู้ประสบภัยต่างพากันร้องขอผ้าห่ม เสื้อกันหนาว น้ำดื่มและอาหาร หลังจากบ้านเรือนนับหมื่นหลังคาเรือนได้รับความเสียหายย่อยยับจากเหตุแผ่นดินไหว ส่งผลทำให้ผู้ที่รอดชีวิตจำนวนมาก ต้องใช้ชีวิตอยู่กลางแจ้ง ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บและมีฝนตกร่วมด้วย ในบางพื้นที่ ขณะเดียวกัน ยังมีรายงานว่าผู้ประสบภัยในหลายพื้นที่กำลังจะขาดแคลนอาหารยังชีพในไม่ช้า ขณะที่บรรดาเด็ก ๆ และผู้สูงวัยต่างยังคงช่วยกันขุดค้นซากปรักหักพังด้วยมือเปล่า เพื่อค้นหาสมาชิกในครอบครัวของตนที่ยังอาจรอดชีวิต ระหว่างรอความช่วยเหลือจากทางการ


นับจนถึงวันพุธ ( 28 ต.ค.) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทางการปากีสถานเปิดเผยว่า มีบ้านเรือนไม่น้อยกว่า 10,000 หลังคาเรือน และโรงเรียนอีก 147 แห่งที่ได้รับความเสียหายจากเหตุธรณีพิโรธระดับ 7.5 แมกนิจูดในครั้งนี้ โดยทางการได้แจกจ่ายเต็นท์ 15,519 หลัง ตลอดจน ผ้าห่ม 25,700 ผืน และอาหารจำนวนมากให้แก่บรรดาผู้ประสบภัย

ขณะที่รัฐบาลอัฟกานิสถานเปิดเผยว่า มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายมากกว่า 7,600 หลัง ขณะที่กลุ่มตอลิบานประกาศเมื่อวันอังคาร ( 27 ต.ค.) ร้องขอให้องค์กรบรรเทาทุกข์นานาชาติรีบเร่งแจกจ่ายความช่วย เหลือ พร้อมให้คำมั่นว่า นักรบของตนจะช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างเต็มที่ แม้ทางกลุ่มจะไม่มีการประกาศวางมือจากการสู้รบกับกองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลอัฟกันก็ตาม ทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลถึงความปลอดภัยของเหล่าเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ ที่ต้องเดินทางลงพื้นที่ไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว

เป็นที่น่าสังเกตว่า นับตั้งแต่เกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในภูมิภาคแห่งเดียวกันนี้เมื่อปี 2005 หรือเมื่อ 10 ปีก่อน รัฐบาลของทั้งปากีสถานและอัฟกานิสถานถูกรุมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า ได้เรียนรู้น้อยมากจากประสบการณ์ความสูญเสียในครั้งนั้น ทั้ง ๆที่ บรรดาหน่วยงานบรรเทาทุกข์หลายแห่งต่างเน้นย้ำถึงความจำเป็น ในการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติขนาดใหญ่ในประเทศทั้งสองที่ต่างมีบาดแผลเรื้อรังจากสงครามและยังสุ่มเสี่ยงในการเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ ทางธรรมชาติไม่ว่าจะเป็น เหตุแผ่นดินไหว น้ำท่วม และดินถล่ม แต่ถึงกระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นล่าสุดก็เป็นบทพิสูจน์ได้อีกครั้งหนึ่งว่า ธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์เสมอ และมีโอกาสน้อยมากที่มนุษย์จะหาทางหลบเลี่ยงจากหายนะในยามที่ “ธรรมชาติโกรธเกรี้ยว”