รอยเตอร์ - โรงงานแห่งหนึ่งใกล้เมืองลาฮอร์ ทางภาคตะวันออกของปากีสถาน พังถล่มลงมาในวันพุธ (4 พ.ย.) คร่าชีวิตคนงานอย่างน้อย 18 ศพและอาจติดอยู่ใต้ซากหังพังมากถึง 150 คน ถือเป็นหายนะทางอุตสาหกรรมครั้งล่าสุดในประเทศเอเชียใต้แห่งนี้
ทีมกู้ภัยใช้เครื่องมือก่อสร้างขุดเจาะลงไปใต้ซากหักพังและจนถึงตอนนี้สามารถช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาได้แล้ว 40 คน จากการเปิดเผยของนายโมฮัมเมด ยูนิส บัตติ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของมูลนิธิเอธีกล่าว
ส่วน คาชีฟ นาซีร์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยให้สัมภาษณ์จากจุดเกิดเหตุ แสดงความกังวลว่าอาจมีคนงานติดอยู่ใต้ซากหักพังมากถึงราวๆ 150 คน หลังอาคารพังถล่มลงมา ขณะที่รถฉุกเฉินเร่งลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
ด้านโฆษกกองทัพเปิดเผยผ่านข้อความทางโทรศัพท์มือถือวา “กองทัพกำลังส่งทีมค้นหาและกู้ภัยบินไปยังจุดเกิดเหตุ วิศวกรทหารได้เคลื่อนพลเพื่อปฏิบัติการช่วยเหลือทันที” ข้อความระบุ
โรงงานผลิตกระเป๋าชอปปิ้งแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรม ห่างจากตัวเมืองไปทางใต้ราว 20 กิโลมตร เบื้องต้นยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าอะไรคือต้นตอของโศกนาฏกรรมนี้ แต่กำลังมีงานก่อสร้างที่โรงงานดังกล่าว
ปากีสถานมีประวัติที่ย่ำแย่ด้านการก่อสร้างและดูแลรักษาอาคารต่างๆ โดยเมื่อปีที่แล้ว มัสยิดแห่งหนึ่งในเมืองเดียวกันนี้เกิดพังถล่มลงมา คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 24 ศพ
ในเดือนกันยายน 2012 มีคนงานถึง 289 คนถูกย่างสดเสียชีวิตในเหตุเพลิงไหม้ ณ โรงงานเสื้อผ้าแห่งหนึ่งในเมืองการาจี ทางภาคใต้ของประเทศ และในวันเดียวกันนั้นเอง ได้เกิดไฟไหม้ที่โรงงานผลิตรองเท้าในเมืองลาฮอร์ ทำคนงานเสียชีวิต 25 ศพ