รอยเตอร์ – สะพานกว่าครึ่งหนึ่งในรัฐออริกอนของสหรัฐฯ เสี่ยงต่อการพังถล่ม หากมีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ หรือ “บิ๊กวัน” ซึ่งพยากรณ์กันว่าจะเกิดขึ้นภายในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า
ดอน แฮมิลตัน โฆษกสำนักงานขนส่งแห่งรัฐออริกอน บอกกับรอยเตอร์ว่า ในสถานการณ์ขั้นเลวร้ายที่สุด แผ่นดินไหวซึ่งอาจมีความแรงถึง 9.0 ตามมาตราแมกนิจูดจะทำให้สะพานข้ามแม่น้ำและทางยกระดับหลายสิบจุดบนทางหลวงหมายเลข 101 ซึ่งตัดเลียบชายฝั่งรัฐออริกอนในแนวเหนือ-ใต้ พังถล่มลงมา รวมถึงสะพานที่อยู่บนถนนสายสำคัญอื่นๆ ซึ่งเชื่อมชุมชนชายฝั่งกับเมืองที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน
“ในสถานการณ์เช่นนั้น เราจะส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งได้อย่างไร ในเมื่อเส้นทางสำคัญๆ ถูกตัดขาด” แฮมิลตัน กล่าว
ก่อนต้นทศวรรษ 1980 คนส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในพื้นที่นี้มีน้อยมาก และสะพานส่วนใหญ่ในรัฐออริกอนก็สร้างขึ้นก่อนที่จะมีการออกมาตรฐานควบคุมการก่อสร้างในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ระบุว่า นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่าแผ่นดินไหวขนาด 8.0-9.0 ตามมาตราแมกนิจูด จะเกิดในภูมิภาคนี้โดยเฉลี่ยทุกๆ 230 ปี ซึ่งครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ 315 ปีมาแล้ว
จากการตรวจสอบโครงสร้างสะพานในรัฐออริกอน สำนักงานขนส่งพบว่าสะพานอายุนับร้อยปีแห่งหนึ่งบนทางหลวงหมายเลข 5 ที่เชื่อมระหว่างรัฐออริกอนกับวอชิงตัน มีแนวโน้มพังถล่มแน่นอนหากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง เนื่องจากพื้นดินส่วนที่รองรับฐานสะพานเริ่มอ่อนตัว ส่วนสะพานอื่นๆ บนทางหลวงระหว่างรัฐอาจพังถล่มเฉพาะช่วงทางลาดเท่านั้น
จากผลการตรวจสอบโครงสร้างสะพานที่เผยแพร่ในเดือนนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งประเมินว่า การซ่อมบำรุงสะพานให้ได้มาตรฐานปัจจุบันจะต้องใช้งบประมาณถึง 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ทว่ายังไม่มีการประเมินค่าใช้จ่ายในการอัพเกรดสะพานทุกแห่งให้สามารถทนรับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้