เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันพุ่งแรงเมื่อวันอังคาร (3 พ.ย.) คาดกำลังการกลั่นจะสูงขึ้นเพื่อให้ตรงตามอุปสงค์ที่สูงขึ้น ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก 2 วันติดจากแรงหนุนกลุ่มพลังงานและค้าปลีก ขณะที่ทองคำยังลงต่อเนื่องนับตั้งแต่เฟดแย้มอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.76 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาน้ำมันตลาดเทกซัสทะยานขึ้นเกือบ 4 เปอร์เซ็นต์ ด้วยนักลงทุนคาดหมายว่าข้อมูลของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ (4 พ.ย.) จะเผยให้เห็นว่าอัตรากำลังการผลิตของโรงกลั่นเพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคาดหมายว่าในรายงานรายสัปดาห์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ จะเผยให้เห็นว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเพิ่มขึ้นแค่ 2.25 ล้านบาร์เรล ถือว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (3 พ.ย.) ปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง 2 วันติด ได้แรงหนุนจากภาคพลังงานและค้าปลีก
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 89.39 จุด (0.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.918.15 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.74 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,109.79 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 17.98 จุด (0.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,145.13 จุด
เอ็กซอนโมบิล สมาชิกดาวโจนส์ ปิดบวก 1.8 เปอร์เซ็นต์ และเชฟรอน ปิดบวก 3.4 เปอร์เซ็นต์ หลังจากเอเวอร์คอร์ บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุน บอกว่าเหล่าบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อาจได้ประโยชน์หากราคาน้ำมันฟื้นตัว
ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกก็ดีดขึ้นถ้วนหน้า หลัง แอล แบรนด์ บริษัทแม่ของวิกตอเรียส์ ซีเคร็ต และอเมริกัน อีเกิล ห้างเสื้อผ้าวัยรุ่น ปรับเพิ่มประมาณการณ์ผลประกอบการ
ส่วนราคาทองคำเมื่อวันอังคาร (3 พ.ย.) ดิ่งลงอย่างหนัก และขยับลงต่อเนื่อง นับตั้งแต่เฟดแย้มว่าอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 21.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,114.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
