เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันเมื่อวันพุธ (23 ธ.ค.) พุ่งแรง หลังข้อมูลพบสต๊อกสำรองสหรัฐฯ ลดลงมากเกินคาดหมาย บ่งชี้อุปสงค์แข็งแกร่ง ปัจจัยนี้ดันวอลล์สตรีทปิดบวก ส่วนทองคำขยับลงจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.36 ดอลลาร์ ปิดที่ 37.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้น 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 37.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การฟื้นตัวของราคาน้ำมันในวันพุธ (23 ธ.ค.) มีขึ้นหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ รายงานว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศลดลง 5.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 ธันวาคม ขณะเดียวกันยังพบตัวเลขนำเข้าน้ำมันลดลงจากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ราว 13 เปอร์เซ็นต์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (23 ธ.ค.) ปิดบวก 3 วันติด นำโดยกลุ่มพลังงานและวัสดุภัณฑ์ หลังจากราคาน้ำมันพุ่งทะยาน
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 185.34 จุด (1.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.602.61 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 25.32 จุด (1.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,064.29 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 44.82 จุด (0.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,045.93 จุด
ราคาน้ำมันที่พุ่งแรงช่วยดันหุ้นของเหล่าบริษัทพลังงาน ด้วยทั้ง 40 บริษัทในภาคพลังงานของเอสแอนด์พี 500 ต่างซื้อขายในแดนบวก นอกจากนี้แล้วตลาดยังขานรับข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แม้ชี้ว่ายอดใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯ ชะลอตัว แต่ก็ถือว่าฟื้นตัวอย่างมั่นคง
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (23 ธ.ค.) ปิดลบเป็นวันที่สองติดต่อกัน จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นก่อนคริสต์มาส โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 5.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,068.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์