เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันปรับขึ้นในวันพุธ (29 ก.ค.) หลังข้อมูลคลังเชื้อเพลิงสำรองสหรัฐฯ คลายกังวลอุปทานอ่อนแอในชาติผู้บริโภครายใหญ่ ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบและทองคำขยับลงเล็กน้อย หลังเฟดมีมติไม่ปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยตามความคาดหมาย
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 81 เซ็นต์ ปิดที่ 48.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 8 เซ็นต์ ปิดที่ 53.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯเผยแพร่รายงานในวันพุธ(29ก.ค.) ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 กรกฎาคม ลดลง 4.2 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 459.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ปัจจัยนี้ผลักให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น เพราะมันส่งสัญญาณอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในอเมริกา
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (29 ก.ค.) ปิดบวก หลังธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม พร้อมบอกว่าเศรษฐกิจและตลาดงานของประเทศกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 121.12 จุด (0.69 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,751.39 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.32 จุด (0.73 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,108.57 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 22.53 จุด (0.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,111.73 จุด
ความเห็นของธนาคารกลางสหรัฐฯ เกี่ยวกับประเด็นทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อตามหลังการประชุมทางนโยบายเป็นเวลา 2 วัน บ่งชี้ว่าคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันต่อแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกันยายนหรือไม่ก็เดือนธันวาคม ตามที่คาดหมายกัน
สหรัฐฯ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับใกล้ๆ ศูนย์เปอร์เซ็นต์มาเกือบทศวรรษและเฟดบอกว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ต่อเมื่อพบเห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนแล้วเท่านั้น
ส่วนราคาทองคำเมื่อวันพุธ (29 ก.ค.) ขยับลงในกรอบแคบๆ หลังเฟดยังมีจุดยืนเดิมเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ย ด้วยอ้างความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อในระดับต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,092.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์