รอยเตอร์ – ผู้นำหมายเลขหนึ่งคนปัจจุบันของกลุ่มอัลกออิดะห์ “อัยมาน อัล-ซอวาฮิรี” ออกมาเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนชาวมุสลิมทั้งหลายร่วมมือกัน เพื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากฝ่ายตะวันตกและรัสเซียในซีเรียและอิรัก นับเป็นคลิปบันทึกเสียงชิ้นล่าสุดซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพิ่มขึ้นมาก ระหว่าง “อัลกออิดะห์” กับ กลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส)
“พวกอเมริกัน, พวกรัสเซีย, พวกอิหร่าน, พวกอาลาวิต, และพวกฮิซบอลเลาะห์ กำลังร่วมมือประสานงานกันในการทำสงครามของพวกเขาซึ่งต่อต้านเล่นงานพวกเรา แล้วพวกเราล่ะ ไม่สามารถหรือ ที่จะยุติการสู้รบกันเองในระหว่างพวกเรา เพื่อที่พวกเราจะได้สามารถทุ่มเทความพยายามของพวกเราทั้งหมดหันไปต่อสู้เล่นงานพวกเขา?” ซอวาฮิรี กล่าวในคลิปเสียงซึ่งถูกนำออกเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตเมื่อวันอาทิตย์ (1 พ.ย.)
ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าคลิปเสียงนี้ทำการบันทึกไว้เมื่อใด แต่จากเนื้อหาที่ผู้นำหมายเลขหนึ่งของอัลกออิดะห์ผู้นี้พูดถึงการรุกรานของรัสเซีย บ่งบอกให้เห็นว่าคงจะทำขึ้นหลังจากรัสเซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย เปิดฉากทำการถล่มโจมตีทางอากาศเล่นงานกลุ่มฝ่ายค้านต่างๆ ในซีเรีย รวมทั้งกลุ่มไอเอสด้วย ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ ในคลิปเสียงอีกคลิปหนึ่งซึ่งนำออกเผยแพร่ในเดือนกันยายน ซอวาฮิรีได้ปฏิเสธไม่ยอมรับฐานะของกลุ่มรัฐอิสลาม และ อบู บาคร์ อัล-แบกดาดี ผู้นำของกลุ่มนี้ แต่ก็กล่าวว่าสาวกของอัลกออิดะห์ควรที่จะเข้าร่วมกับไอเอส ในการสู้รบกับกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยฝ่ายตะวันตกในอิรักและซีเรีย ถ้าหากสามารถที่จะกระทำเช่นนั้นได้
“พี่น้องนักรบมูจาฮีดีนของเราในทุกหนทุกแห่ง และของทุกๆ กลุ่ม ... เรากำลังเผชิญการรุกรานจากอเมริกา, ยุโรป, และรัสเซีย ... ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับพวกเราที่จะต้องยืนหยัดร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว ตั้งแต่เตอร์กิสถานตะวันออก ไปจนกระทั่งถึงโมร็อกโก” ซอวาฮิรี เรียกร้องในคลิปล่าสุด
ไอเอส กลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่งซึ่งเวลานี้สามารถควบคุมพื้นที่ผืนใหญ่ๆ หลายผืนในอิรักและซีเรีย ก็ได้ออกมาเรียกร้องชาวมุสลิมทั้งหลายให้ทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ต่อสู้เล่นงานทั้งรัสเซียและสหรัฐฯ เพื่อเป็นการตอบโต้การที่มอสโกและวอชิงตันเข้าถล่มโจมตีทางอากาศใส่นักรบไอเอสในซีเรีย
ถ้าหาก อัลกออิดะห์ และ ไอเอส มีความร่วมมือกันใดๆ ขึ้นมา ย่อมเพิ่มความยุ่งยากซับซ้อนให้แก่ความพยายามในการสร้างเสถียรภาพในตะวันออกกลาง หลังจากที่ภูมิภาคนี้ถูกกลุ่มหัวรุนแรงต่างๆ แผ่อิทธิพลบารมี รวมทั้งเปิดการโจมตีมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เกิดกระแส “อาหรับสปริง” ในปี 2011 ซึ่งมีการโค่นล้มพวกผู้นำเผด็จการรวบอำนาจของหลายชาติในตะวันออกกลาง ที่เคยมีบทบาทในการควบคุมพวกหัวรุนแรงเหล่านี้