xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มติดอาวุธเชื่อมโยงรัฐอิสลามอ้าง สอยเครื่องบินโดยสารรัสเซียร่วงที่ไซนาย แต่ข้อมูลเบื้องต้นชี้เครื่องมีปัญหาทางเทคนิค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ / เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กลุ่มติดอาวุธในอียิปต์ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมาอ้างความรับผิดชอบว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตกของเครื่องบินโดยสารรัสเซียในเขตคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ในวันเสาร์ (31 ต.ค.) อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอียิปต์ ยืนยันโดยอ้างผลการสืบสวนเบื้องต้นว่าโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินโดยสารลำดังกล่าวเกี่ยวข้องกับปัญหาทางเทคนิค

รายงานข่าวระบุว่า กลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นในอียิปต์ ซึ่งมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียและอิรัก เผยแพร่คำแถลงที่ในเวลาต่อมามีการส่งผ่านต่อๆ กันใน “ทวิตเตอร์” โดยบรรดาผู้สนับสนุนของตน โดยคำแถลงดังกล่าวซึ่งในตอนแรกมีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของที่มีชื่อว่า “อามัก” ที่ทำหน้าที่เป็น “สำนักข่าวกึ่งทางการ” ของกลุ่มรัฐอิสลามอ้างว่า กลุ่มของตนอยู่เบื้องหลังการตกที่คาบสมุทรไซนาย ของเครื่องบินโดยสารแอร์บัส เอ321 ของสายการบินเมโทรเจ็ตของรัสเซีย เป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 224 ชีวิตบนเครื่องเสียชีวิตยกลำในวันเสาร์ (31 ต.ค.)

“นักรบของกลุ่มรัฐอิสลามสามารถสอยเครื่องบินลำหนึ่งของรัสเซีย ที่บินอยู่เหนือจังหวัดไซนาย โดยมีผู้รุกรานชาวรัสเซียมากกว่า 220 รายอยู่บนเครื่องบินลำนี้ซึ่งทั้งหมดได้เสียชีวิตแล้ว” เนื้อหาส่วนหนึ่งของคำแถลงฯ ที่มีการแพร่กระจายผ่านทางทวิตเตอร์ระบุ พร้อมอ้างว่าการกระทำล่าสุดนี้เป็นการตอบโต้ที่ทางการรัสเซียเปิดการโจมตีทางอากาศต่อฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียซึ่งรวมถึงกลุ่มนักรบรัฐอิสลามตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี รายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่คาบสมุทรไซนาย เปิดเผยโดยอ้างผลการตรวจสอบเบื้องต้นจากจุดที่เครื่องบินตกว่า การตกของเครื่องบินโดยสารของรัสเซียในคาบสมุทรไซนายของอียิปต์มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาข้อผิดพลาดทางด้านเทคนิคที่ทำให้เครื่องบินพุ่งลงในแนวดิ่ง ก่อนตกกระแทกพื้นและทำให้เครื่องบินถูกเพลิงไหม้เกือบทั้งลำ

ขณะเดียวกัน รายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวยังระบุว่า ทีมกู้ภัยชุดแรกๆ ที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุพบร่างของผู้เสียชีวิตกว่า 150 ร่าง ซึ่งรวมถึงศพที่ถูกเผาจนไหม้เกรียม กระจัดกระจายอยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตร จากจุดที่พบซากเครื่องบินตก

ทั้งนี้ เครื่องบินโดยสารลำดังกล่าวเป็นของสายการบินโกกาลีมาเวียของรัสเซีย แต่ถูกนำมาให้บริการภายใต้ชื่อเมโทรเจ็ต โดยเที่ยวบินที่ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ถูกระบุว่า มีเส้นทางบินจากเมืองตากอากาศริมฝั่งทะเลแดง ชาร์ม เอล-ชีคห์ บนคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ไปยังปลายทางที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในรัสเซีย

ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานจากสำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซีย ซึ่งอ้างโฆษกคณะกรรมการสืบสวนของทางการแดนหมีขาวในวันเสาร์ 31) ซึ่งระบุว่า กำลังตรวจสอบ “ตัวอย่างเชื้อเพลิง” ของเครื่องบินโดยสารลำดังกล่าว จากจุดที่มีการเติมเชื้อเพลิงครั้งสุดท้าย นั่นคือที่เมืองซามาราของรัสเซีย

โดยรายงานซึ่งอ้างวลาดิมีร์ มาร์กิน โฆษกของคณะกรรมการสืบสวนของรัสเซียระบุว่า ทีมสืบสวนได้สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการตรวจเช็กความพร้อมของเครื่องบินลำดังกล่าวและลูกเรือ ตลอดจนการค้นหาเบาะแสที่อาจเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้ จากสนามบินโดโมเดโดโวในกรุงมอสโก ที่สายการบินดังกล่าวใช้เป็นฐานด้วยเช่นกัน

ด้านสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงไคโรของอียิปต์ เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของอียิปต์ว่า นักบินที่ควบคุมเครื่องบินโดยสารลำนี้ พยายามนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินเอล-อาริช ก่อนที่เครื่องจะตกไม่นาน