เอเจนซีส์/เอพี – ถึงแม้ในเบื้องต้นจะมีรายงานบ่งชี้ว่า เที่ยวบิน 7K-9268 ของสายการบินเมโทรเจ็ต A-321 สัญชาติรัสเซียว่าจะเกิดจากปัญหาเครื่องขัดข้อง และเกิดระเบิดแยกออกเป็น 2 ส่วน แต่ล่าสุดกลุ่มก่อการร้าย IS ที่อ้างใช้ RPG ยิงเครื่องบินรัสเซียตกแก้แค้นปฎิบัติการในซีเรีย ล่าสุดเผยแพร่วิดีโอคลิปที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน เผยภาพวินาทีเมโทรเจ็ต A-321 ขณะตก สื่ออังกฤษชี้ สายการบินอังกฤษได้รับคำเตือน 3 ก่อนหน้านี้ห้ามบินระดับเพดานต่ำเหนืออียิปต์ ในขณะที่ในวันอาทิตย์(1)เยอรมันออกคำสั่งห้ามไม่ให้สายการบินเยอรมันใช้เส้นทางการบินของเมโทรเจ็ต A-321 เหนือคาบสมุทรไซนาย
เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(1)ว่า หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธ IS ได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางทวิตเตอร์อ้างว่า ทางกลุ่มติดอาวุธรับผิดชอบการตกของเครื่องบินสัญชาติรัสเซีย ล่าสุดก่อการร้าย IS ได้เผยแพร่วิดีโอคลิปที่ยังไม่ได้รับการยืนยันผ่านอินเตอร์เนตในวันที่ 31 ตค. จากการรายงานของสื่ออังกฤษและบีบีซีอเมริกา ที่มีความยาวของวิดีโอคลิปราว 1.09 นาที แสดงภาพเครื่องบินระเบิดลุกโชนกลางอากาศและมีควันดำขโมงเหนือคาบสมุทรไซนาย
แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งอียิปต์และมอสโกต่างปฎิเสธคำอ้างของกลุ่มก่อการร้าย IS ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครื่องบินสายการบินเมโทรเจ็ต A-321 ตก ที่มีคนทั้งหมด 224 ชีวิตอยู่บนนั้น รวมไปถึงทางรกอายุ 10 เดือน
นอกจากนี้บีบีซี สื่ออังกฤษ ยังได้วิเคราะห์วิดีโอคลิปชิ้นนี้ที่เผยแพร่ออกมาว่า วิดีโอคลิปเครื่องบินตกไม่ได้เป็นวิดีโอคลิปอย่างเป็นทางการของสื่อ IS และไม่ได้ถูกเผยแพร่ออกผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการของกลุ่มติดอาวุธ IS ซึ่งสอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีคมนาคมรัสเซีย มัคซิม โซโคลอฟ(Maksim Sokolov)ให้สัมภาษณ์ว่า "ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าเครื่องบินรัสเซียตกเป็นเป้า และตลอดจนภาพถ่ายและวิดีโอคลิปที่ปรากฎในเวลานี้ไม่ได้ถูกกลุ่มก่อการร้าย IS เป็นผู้ถ่าย"
ด้านดิอินดีเพนเดนต์ สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมในรายละเอียดว่า กลุ่มติดอาวุธ Wilayat Sinai ที่มีเครือข่ายโยงใยกับกลุ่ม IS มีรายงานออกปฎิบัติการอยู่ในบริเวณที่เครื่องบินโดยสารรัสเซียตก โดยใช้ระเบิดฆ่าตัวตายต่อกำลังเจ้าหน้าที่อียิปต์
ซึ่งจากแถลงการณ์ที่ออกมาโดยกลุ่มติอาวุธ IS ระบุว่า "นักรบของสาธารณรัฐอิสลามทำให้เครื่องบินรัสเซียเหนือจังหวัดไซนายตก ซึ่งบรรทุกชาวรัสเซียจำนวนกว่า 220 คน โดยคนทั้งหมดบนเครื่องถูกสังหารทั้งสิ้น ขอขอบพระคุณพระผู้เป็นเจ้า" ดิอินดีเพนเดนต์รายงานในวันเสาร์(31 ตค.)
นอกจากนี้ดิอินดีเพนเดนต์ยังระบุว่า ในแถลงการณ์ ไม่ได้กล่าวถึงวิธีที่ทำให้เครื่องบินโดยสารรัสเซียตก แต่ผู้สนับสนุนกลุ่มติดอาวุธได้เผยแพร่วิดีโอคลิปที่แสดงให้เห็นขณะกำลังตกโดยระเบิดกลางอากาศก่อนมีควันดำพวยพุ่ง ที่วิดีโอคลิปนี้มีผู้ชมจำนวนมากต่างอ้างว่า ไม่ใช่เป็นเรื่องจริง
ดิอินดีเพนเดนต์ยังรายงานเพิ่มเติมต่อว่า แต่อย่างไรก็ตาม จากการรายงานของบีบีซีพบว่า Wilayat Sinai นั้นมีอาวุธ RPG แบบประทับบ่าอยู่จริงที่เรียกว่า Manpads แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ไม่มีศักยภาพสามารถยิงเครื่องบินระดับ 31,000 ฟุตได้
ซึ่งล่าสุดจากการรายงานของ MSNBC News สื่อสหรัฐฯในวันอาทิตย์(1)ว่า วิคเตอร์ โซโรเชนโก (Viktor Sorochenko) เจ้าหน้าที่กรรมาธิการระหว่างหน่วยงานด้านการบินรัสเซียยืนยันว่า เที่ยวบิน 7K-9268 ที่เดินทางออกมาจากท่าอากาศยานเมืองตากอากาศริมฝั่งทะเลแดง ชาร์ม เอล-ชีคห์ บนคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ไปยังปลายทางที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในรัสเซียนั้นระเบิดกลางอากาศแยกออกเป็น 2 ส่วนก่อนที่จะตก
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญรัสเซียปฎิเสธที่จะชี้เฉพาะเจาะจงลงไปถึงการตกครั้งนี้โดยอ้างว่า ต้องรวบรวมข้อมูลให้ได้มากกว่านี้ โดยโชโรเชนโกให้สัมภาษณ์ในขณะได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังจุดตกบนคาบสมุทรไซนาย อียิปต์
และสอดคล้องกับการให้ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญอีกคนของรัสเซีย อเล็กซานเดอร์ นาราดค์ (Alexander Neradk)ผู้อำนวยงานสำนักงานการบินรัสเซียที่กล่าวว่า เชื่อว่าเครื่องบินโดยสารลำนี้แยกชิ้นส่วนด้วยระดับเพดาบินอัลติจูดสูง จากหลักฐานที่ชิ้นส่วนของเครื่องบินเมโทรเจ็ตถูกค้นพบกระจัดกระจายในบริเวณกว้าง
เดลีเมลรายงานต่อว่า มีรายงานเปิดเผยว่า ซากเครื่องบินโดยสารรัสเซียถูกค้นพบห่างไปจากบริเวณจุดออกบินไปราว 200 กม.ทางทิศเหนือ ซึ่งวิเคราะห์ว่าในขณะนั้น ระดับเพดานการบินสูงถึง 31,000 ฟุต และสื่ออังกฤษยังชี้ว่า เป็นที่เข้าใจว่า ในขณะนี้ยังไม่พบว่ากลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธจะมียุทโธปกรณ์ที่สามารถยิงอากาศยานบินในระดับความสูงนี้ได้
โดยศาสตราจารย์ ไมเคิล คล๊าก (Michael Clarke) ผู้อำนวยการใหญ่แห่งสถาบัน Royal United Services วิเคราะห์ว่า เครื่องบินเมโทรเจ็ต A-321 นั้นน่าจะเกิดมาจากระเบิดที่ซุกอยู่ในตัวเครื่องมากกว่า
โดยให้เหตุผลกับบีบีซี สื่ออังกฤษว่า “กลุ่มติดอาวุธมีอาวุธ RPG แบบยิงประทับบ่า ซึ่งมีศักยภาพสามารถทำลายเครื่องบินที่กำลังแหล่นลงจอด หรือในขณะกำลังบินขึ้นได้ แต่ทว่าในระดับความสูงเหนือกว่า 8,000 หรือ 9,000 ฟุตนั้นพ้นจากความสามารถของอาวุธที่กลุ่มก่อการร้ายมีในขณะนี้” คล๊ากกล่าว
นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญรายนี้ยังชี้ว่า ถึงแม้เครื่องบินโดยสารรัสเซียจะตกในบริเวณปฎิบัติการของกลุ่มติดอาวุธที่โยงใยกับกลุ่มก่อการร้าย IS แต่ทว่ายังไม่มีเหตุหลักฐานทำให้เชื่อได้ว่า อาวุธของกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นจะมีส่วนเกี่ยวของกับการตกของเมโทรเจ็ต A-321 ในวันเสาร์(31 ตค.)
ด้าน ฮอสซาม คาเมล (Hossam Kamal)รัฐมนตรีการบินพลเรือนอียิปต์แถลงว่า จากการรายงานพบว่า การติดต่อระหว่างหอควบคุมการบิน และนักบินเที่ยวบิน 7K-9268 นั้นทุกอย่างดูเป็น”ปกติ” ก่อนที่จะเกิดโศกนาฎกรรมขึ้น และอีกทั้งนักบินคนขับไม่ได้ร้องขอเปลี่ยนเส้นทางการบินแต่อย่างใด และหอบังคับการบินไม่ได้มีบันทึกการร้องขอฉุกเฉิน
ซึ่งการให้สัมภาษณ์ล่าสุดของคาเมลขัดแย้งกับรายงานก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า นักบินเมโทรเจ็ตได้แจ้งเรื่องปัญหาทางเทคนิก และแจ้งความประสงค์ต้องการจะลงจอดยังสนามบินที่ใกล้ที่สุดในเวลานั้น
นอกจากนี้ ในวันอาทิตย์(1)สายการบินลุฟต์ฮันซาประกาศระงับการบินเหนือคาบสมุทรไซนายหากยังไม่ปรากฎว่าสาเหตุของเครื่องบินโดยสารรัสเซียลำนี้ตกเพราะอะไร โดยโฆษกหญิงลุฟต์ฮันซาชี้แจงว่า “ความปลอดภัยถือเป็นหัวใจหลักของลุฟต์ฮันซา” และกล่าวต่อว่า ทางบริษัทจะใช้เส้นทางอ้อมไปยังท่าอากาศยานอื่นที่อยู่ในย่านนั้น
เอพีรายงานเพิ่มเติมว่า กระทรวงคมนาคมเยอรมันได้ออกคำสั่งด่วนเตือนเมื่อวานนี้(1)ไปยังทุกบริษัทสายการบินของเยอรมันไม่ให้ใช้เส้นทางการบินของสายการบินเมโทรเจ็ตที่เกิดปัญหา
และมาถึงขณะนี้พบว่า นอกจากสายการบินลุฟต์ฮันซาที่ระงับการบินในบริเวณนี้แล้ว สายการบินแอร์ฟรานซ์ และสายการบินสัญชาติดูไบ เอมิเรตส์ ออกประกาศระงบการบินเหนือคาบสมุทรไซนายเช่นกันจนกว่าสาเหตุการตกของเครื่องบินโดยสารรัสเซียจะถูกระบุอย่างเป็นทางการ
ในขณะที่สายการบินบริติชแอร์เวย์ อีซีเจ็ต และเวอร์จินแอตแลนติก ต่างยืนยันจะยังคงให้บริการบินต่อไปในบริเวณโดยไม่มีการระงับ จากการรายงานของเอพี แต่ทว่าเดลีเมล สื่ออังกฤษรายงานว่า ในวันอาทิตย์(1)นักบินของบริษัทบริติชแอร์เวย์ได้เปิดเผยว่า มีคำสั่งด่วนให้เลี่ยงการใช้เพดานบินต่ำเหนืออียิปต์หลังเกิดเหตุโศกนาฎกรรมครั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจตามมา
ซึ่งสื่ออังกฤษชี้ว่า พิสัยการยิงของปืนยิงขีปนาวุธแบบประทับบ่า หรือ RPG จากภาคพื้นสู่อากาศไม่เกิน 25,000 ฟุต
และเดลีเมลยังรายงานเพิ่มเติมว่า มีการค้นพบว่านักบินอังกฤษต่างได้รับคำเตือนในเรื่องการปลอดภัยโดยไม่ให้บินในระดับเพดานการบินต่ำเหนือจุดตกบนคาบสมุทรไซนายตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งในคำเตือนระบุพบว่า ได้มีการเตือนไม่ให้นักบินทำการบินต่ำกว่า 25,000 ฟุตครอบคลุมพื้นที่ 14,000 ตารางไมล์ เพื่อป้องกันไม่ให้โดนถูกยิงจากอาวุธแบบยิงภาคพื้นสู่อากาศ
แต่อย่างไรก็ตาม สื่ออังกฤษไม่ได้เปิดเผยในรายละเอียดถึงหน่วยงานที่ออกคำสั่งนี้ไปยังนักบินอังกฤษ
ทั้งนี้พบว่าคำเตือนถึง Airmen (NOTAM) นั้นถูกสั่งในวันที่ 9 กันยายน 2015 เวลา 8.50 น.จะยังคงมีผลไปจนถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2015 ที่คาดว่าจะค้นพบสาเหตุการตกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เดลีเมลรายงานว่า ในคำสั่งนี้ระบุให้นักบินไม่ให้บินในระดับต่ำกว่า 25,000 ฟุตครอบคลุมพื้นที่ 14,000 ตารางไมล์เหนือพื้นที่คาบสมุทรไซนายเหนือเมื่อบินเข้าไปยังชาร์ม เอล-ชีคห์ ซึ่งในคำสั่งนี้กล่าวว่า “สถานการณ์อันตรายเหนือท้องฟ้าอียิปต์บริเวณไซนายเหนือ นั้นสามารถเป็นอันตายต่อเครื่องบินที่บินผ่านในบริเวณนี้ที่มีเพดานบินต่ำกว่า 25,000 ฟุต ที่อาจเป็นอันตรายต่อเครื่องยิงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน”
และในคำเตือนยังกล่าวต่อว่า “ขอให้ผู้บังคับการเครื่องไตร่ตรองให้รอบคอบในความเสี่ยงถึงชีวิตที่อาจเกิดขึ้น และรวมไปถึงการตัดสินใจการเปลี่ยนเส้นทางการบิน”
และสื่ออังกฤษชี้ว่า สายการบินสัญชาติอังกฤษยังได้รับคำแนะนำให้ติดต่อกระทรวงคมนาคมอังกฤษในรายละเอียดเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้