เอเจนซีส์ - ทางการฟิลิปปินส์ระบุในวันพฤหัสบดี (22 ต.ค.) นักการทูตชาวจีน 2 คนที่ต้องสงสัยฆ่าเพื่อนร่วมงาน ด้วยกัน จะได้รับเอกสิทธิ์ความคุ้มครองทางการทูตและจัดส่งตัวให้ฝ่ายจีนตามที่ปักกิ่งร้องขอ ด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงเพียงว่า กำลังสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการยิงกันในภัตตาคารแห่งหนึ่งที่เมืองเซบู โดยที่ตำรวจตากาล็อกคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากปัญหาเงินๆ ทองๆ
ตำรวจฟิลิปปินส์เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สามีของหญิงจีนคนหนึ่งที่ทำงานในสถานกงสุลจีนในเมืองเซบู ยิงซุน ซัน ผู้ช่วยกงสุลใหญ่ และหลี่ ฮุ้ย เจ้าหน้าที่การเงินหญิง เสียชีวิต ระหว่างงานเลี้ยงวันเกิดในภัตตาคารแห่งหนึ่งเมื่อวันพุธ (21) โดยซุนถูกยิงที่คอและหลี่ถูกยิงที่ศีรษะ
ส่วนซ่ง หรงหวา กงสุลใหญ่ ซึ่งเป็นเจ้าของวันเกิด ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ
ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยคือ หลี่ ชิงเหลียง รวมทั้งภรรยาคือ กัว จิ่ง ซึ่งทำงานในแผนกวีซ่าของสถานกงสุลจีน
ชาร์ลส์ โฆเซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ แถลงสั้นๆ ว่า สองสามีภรรยาจะได้รับเอกสิทธิ์ความคุ้มกันทางการทูตภายใต้อนุสัญญาเวียนนาตามคำขอของสถานเอกอัครราชทูตจีน ทว่า ระหว่างนี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของตำรวจเซบูจนกว่าทีมรักษาความปลอดภัยจากปักกิ่งจะเดินทางไปรับ
โฆเซเสริมว่า หลี่และกัวจะถูกดำเนินคดีในจีน และฟิลิปปินส์เคารพสิทธิของทั้งคู่ในการไม่ให้ปากคำใดๆ กับตำรวจท้องถิ่น
ขณะที่ตำรวจอาวุโสคนหนึ่งเผยว่า ไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ เนื่องจากทั้งคู่ได้รับความคุ้มกันทางการทูต
ทางด้านหวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงที่กรุงปักกิ่งเพียงว่า เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เรย์ เลวาส โฆษกสำนักงานตำรวจเซบูเผยว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนเชื่อว่า สาเหตุของเหตุการณ์นี้อาจมาจากความไม่พอใจเรื่องเงินระหว่างหลี่และซุน เนื่องจากทั้งคู่มีปัญหาส่วนตัวเรื่องนี้กันมานาน
ในส่วนบริกรของ “ไลต์เฮาส์” ซึ่งเป็นภัตตาคารยอดนิยมและเป็นสถานที่เกิดเหตุนั้น ให้ปากคำกับตำรวจว่า ได้ยินเสียงตะโกนออกมาจากห้องรับรองส่วนตัว แต่ไม่เข้าใจว่าคู่กรณีถกเถียงเรื่องอะไรกัน แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีก็ได้ยินเสียงปืน
พรูเดนซิโอ ทอม บานาส ผู้กำกับการตำรวจเมืองเซบู เผยว่า จากคำให้การของพยานและภาพจากกล้องวงจรปิดในร้าน มือปืนยิงกงสุลใหญ่และผู้ช่วยก่อน และตามไปยิงหลี่ ฮุ้ยที่วิ่งหนีออกไปนอกห้อง โดยตำรวจสามารถเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุคือ ปืนกึ่งอัตโนมัติ โคลต์ .45 และปลอกกระสุน 3 นัด
บานาสยังยอมรับว่า เจ้าหน้าที่กลุ่มแรกที่ไปถึงที่เกิดเหตุปล่อยให้ผู้รอดชีวิตทั้งหมดออกจากภัตตาคาร ก่อนตามไปจับกุมผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนหลังจากนั้นไม่นาน โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน บทบรรณาธิการฉบับวันพฤหัสบดีของโกลบัล ไทมส์ หนังสือพิมพ์ในเครือเหรินหมินรึเป้า กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุว่า นักการทูตมักต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียด
“เจ้าหน้าที่การทูตไม่ควรคิดว่า ตนเองได้รับการปกป้องจากปัญหา และบุคคลภายนอกก็ไม่ควรคิดแบบนั้นเช่นเดียวกัน”
การทำร้ายนักการทูตในเอเชียไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ศาลเกาหลีใต้ตัดสินจำคุกนักเคลื่อนไหวต่อต้านอเมริกันคนหนึ่ง 12 ปี จากการใช้มีดทำร้ายเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำกรุงโซลในเดือนมีนาคมปีนี้