xs
xsm
sm
md
lg

In Pics : สุดเศร้า! ผู้สูงวัยเกาหลี “ร่ำไห้อาลัย” พี่น้องในโสมแดงก่อนปิดฉาก “รวมญาติ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - ผู้สูงอายุชาวเกาหลีที่เพิ่งได้มีโอกาสพบหน้าญาติพี่น้องซึ่งพลัดพรากจากกันมานานถึง 60 ปี ต้องกล่าวคำอำลากันทั้งน้ำตาในวันนี้ (22 ต.ค.) ในขณะที่กิจกรรมรวมญาติชาวเกาหลีซึ่งจัดขึ้นที่รีสอร์ตบนภูเขาคุมกังในเกาหลีเหนือถึงเวลาต้องปิดฉากลง

ในวันนี้ (22) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงานรวมญาติ ผู้สูงวัยจากเกาหลีใต้หลายร้อยคนได้มีโอกาสเจอญาติของตนอีกเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะขึ้นรถบัสข้ามแดนกลับมายังฝั่งโสมขาว

ระหว่างที่นั่งพูดคุยกันเป็นครั้งสุดท้ายภายในห้องจัดเลี้ยง บรรดาคุณลุงคุณป้าต่างโอบกอดซึ่งกันและกัน บ้างก็เกาะกุมมือ และร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าที่จะต้องจากกันไปอีกครั้ง แต่ก็มีคุณยายชาวเกาหลีเหนือคนหนึ่งที่พยายามสะกดกลั้นความรู้สึก และโชว์ความฟิตปั๋งของร่างกายด้วยการท้าคนนั้นคนนี้ให้มาเล่น “งัดข้อ” กับเธอ

งานรวมญาติชาวเกาหลีถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 5 ปี โดยผู้สูงอายุจะมีโอกาสได้พบเจอญาติของตนในเกาหลีเหนือเพียง 6 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 2 ชั่วโมง โดยมีทั้งกิจกรรมหมู่และการพูดคุยแบบเป็นส่วนตัวที่ไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปถ่ายภาพ

สงครามเกาหลีซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปี 1950-53 ส่งผลให้ประชาชนต้องพลัดถิ่นที่อยู่หลายล้านคน พี่น้อง พ่อแม่ลูก รวมถึงสามีภรรยาหลายคู่ ต้องพลัดพรากจากกัน

ปัจจุบันยังมีผู้สูงอายุในเกาหลีใต้กว่า 65,000 คนที่ลงชื่อรอเข้าร่วมกิจกรรมรวมญาติ ดังนั้น ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้เดินทางไปยังรีสอร์ตบนภูเขาคุมกังในปีนี้ จึงนับเป็นคนกลุ่มน้อยที่มีโชคดีอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้สูงวัยที่ต้องทนทุกข์เพราะการพลัดพรากจากญาติมานานถึง 60 ปี การได้พูดคุยไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันโดยรวมๆ แค่ 12 ชั่วโมง ถือเป็นเวลาแห่งความสุขที่แสนสั้น

“ถ้าพวกเขาให้เราได้คุยกันและนอนห้องเดียวกันบ้างก็คงจะดี แต่นี่ได้แค่เพียงเจอกันเป็นครั้งคราวเท่านั้น” ฮัน ซุน-คยู วัย 70 ปี ซึ่งเดินทางข้ามแดนเพื่อไปพบกับน้าหญิงที่อาศัยอยู่ในเกาหลีเหนือ กล่าว

“ผมยังหวังว่าเราจะได้นั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกันเป็นครอบครัว แทนที่จะต้องนั่งรวมกับคนอื่นๆ มากมาย”

โครงการรวมญาติถือกำเนิดขึ้นหลังจากการประชุมซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างอดีตประธานาธิบดีคิม แดจุง แห่งเกาหลีใต้ และอดีตผู้นำคิม จองอิล แห่งเกาหลีเหนือ เมื่อปี 2000 ทว่าแต่ละครั้งจะมีผู้สูงวัยที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมแค่ไม่กี่ร้อยคน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ยื่นคำร้องนับหมื่นๆ และด้วยเหตุนี้ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จึงล้มหายตายจากไปเสียก่อนโดยที่ยังไม่มีโอกาสพบหน้าญาติของตนในเกาหลีเหนือ

สงครามเกาหลียุติลงได้ด้วยข้อตกลงหยุดยิง แต่ยังไม่มีการทำสนธิสัญญาสันติภาพ ดังนั้น ในทางเทคนิคเกาหลีเหนือและใต้จึงยังอยู่ในฐานะ “คู่สงคราม” และการสื่อสารข้ามแดนระหว่างพลเรือนไม่ว่าจะเป็นจดหมายหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ก็ถูกห้ามอย่างเด็ดขาด








กำลังโหลดความคิดเห็น