ภริยาหม้ายอดีตประธานาธิบดีคิม แดจุง รับบทกาวใจเยือน “โสมแดง”

เอเอฟพี - นางลี ฮีโฮ ภริยาหม้ายของอดีตประธานาธิบดีคิม แดจุง แห่งเกาหลีใต้ ออกเดินทางไปเยือนกรุงเปียงยางในวันนี้ (5 ส.ค.) โดยจะทำหน้าที่เสมือนทูตพิเศษที่ช่วยคลายความบาดหมางและประสานความร่วมมือระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้าน

การไปเยือนเกาหลีเหนือของนางลี ระหว่างวันที่ 5-8 ส.ค. แม้จะมีจุดมุ่งหมายด้านมนุษยธรรมเป็นสำคัญ แต่หลายฝ่ายก็เฝ้าจับตามองว่าเธอจะมีโอกาสพบปะกับผู้นำคิม จองอึน ซึ่งส่งสัญญาณไฟเขียวอนุมัติทริปประวัติศาสตร์นี้ด้วยตนเองหรือไม่

“ดิฉันหวังว่าการเดินทางครั้งนี้คงจะเป็นโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยเจรจากัน แลกเปลี่ยน และร่วมมือกันมากยิ่งขึ้น” โฆษกของลีอ่านคำแถลงของเธอที่สนามบินในกรุงโซล

“ดิฉันไปเกาหลีเหนือคราวนี้ด้วยความหวังว่าชาวเกาหลีจะสามารถเยียวยาบาดแผลจากความแตกแยกที่สร้างความเจ็บปวดต่อเรามานานถึง 70 ปีได้”

สงครามเกาหลีถูกระงับไว้ด้วยข้อตกลงหยุดยิงในปี 1953 จึงทำให้เกาหลีเหนือและใต้ยังอยู่ในฐานะ “คู่สงคราม” มาจนถึงปัจจุบัน และการส่งเที่ยวบินตรงไปยังเมืองหลวงของกันและกันอย่างที่ ลี และคณะของเธอทั้ง 18 คนเดินทางไปในวันนี้ก็เกิดขึ้นน้อยมาก

ลี เคยไปเยือนเกาหลีเหนือมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2011 เป็นการไปเคารพศพอดีตผู้นำคิม จองอิล ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมลงอย่างกะทันหัน เวลานั้นเธอได้มีโอกาสพบคิม จองอึน ชั่วเวลาสั้นๆ ระหว่างที่เขาออกมาต้อนรับแขกที่มาร่วมไว้อาลัย

อดีตประธานาธิบดีคิม แดจุง สามีของลี คือผู้ริเริ่มนโยบาย “ซันไชน์” ที่มุ่งส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ จนนำมาสู่การจัดประชุมซัมมิตครั้งแรกระหว่างเขา และอดีตผู้นำคิม จองอิล ของรัฐโสมแดงเมื่อปี 2000

อย่างไรก็ตาม เมื่อพรรคอนุรักษนิยมก้าวขึ้นมาเป็นรัฐบาลเกาหลีใต้ในปี 2008 นโยบายที่ คิม แดจุง วางรากฐานไว้ก็ถูกละทิ้ง และความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือก็มีแต่เสื่อมทรามลงเรื่อยๆ ตั้งแต่นั้นมา

การที่เปียงยางเดินหน้าทดสอบระเบิดนิวเคลียร์และขีปนาวุธหลายต่อหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ รวมถึงเหตุปะทะตามแนวชายแดนระหว่างทหารทั้ง 2 ฝ่าย ยิ่งส่งผลให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีร้อนระอุขึ้น

กรุงโซลย้ำว่า การไปเยือนเกาหลีเหนือของนางลี ถือเป็น “ภารกิจส่วนตัว” และเธอก็ไม่ได้เป็นผู้ถือสารอย่างเป็นทางการใดๆ จากรัฐบาลเกาหลีใต้ คณะของนางลีไม่มีเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ซึ่งอยู่ในตำแหน่งร่วมทางไปด้วยแม้แต่คนเดียว

การพูดคุยในประเด็นใหญ่ๆ เช่น โครงการนิวเคลียร์โสมแดง รวมถึงความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการที่รัฐบาลเกาหลีใต้มอบแก่เกาหลีเหนือ ถูกพับเก็บเข้าลิ้นชักมานานหลายปี แต่นักวิเคราะห์บางคนก็มองว่า การเดินทางของ ลี ซึ่งได้รับคำอนุมัติจากผู้นำเกาหลีเหนือน่าจะเป็นโอกาสให้ทั้งสองประเทศได้รื้อฟื้นการปฏิสัมพันธ์กัน อย่างน้อยก็ในประเด็นที่ไม่ใช่เรื่องการเมือง

การไปเกาหลีเหนือของนางลี มีขึ้นไม่กี่วันก่อนจะถึงวาระครบรอบ 70 ปีที่คาบสมุทรเกาหลีได้รับการปลดปล่อยจากการถูกยึดครองโดยกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี 1945