xs
xsm
sm
md
lg

มาเลย์ลั่น อาชญากรกระหายเลือดต้องชดใช้ หลังผลสรุปยัน MH17 ถูกจรวดสอยร่วง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ทิบเบ จูสตรา (ซ้าย) ประธานของคณะกรรมการด้านความปลอดภัยของเนเธอร์แลนด์ แถลงเปิดตัวรายงานอย่างเป็นทางการ ผลสอบสวนสาเหตุการตกของเที่ยวบิน MH17 ในยูเครนตะวันออกเมื่อปีที่แล้ว ณ ฐานทัพอากาศในภาคกลางของเนเธอร์แลนด์ในวันอังคาร (13) โดยที่มีการฉายวิดีโอแสดงให้เห็นการยิงขีปนาวุธ “บุ๊ค” ขณะที่ฉากหลังของเวทีแถลงข่าว เป็นส่วนหน้าของ MH17 ซึ่งนำเอาเศษซากที่รวบรวมได้มาประกอบขึ้นใหม่
เอเอฟพี - มาเลเซียในวันอังคาร (13 ต.ค.) ประกาศจะหาทางดำนินคดีต่อ “พวกอาชญากรกระหายเลือด” ที่เป็นคนยิงเที่ยวบิน MH17 หลังทีมสืบสวนนานาชาติที่นำโดยเนเธอร์แลนด์เสนอรายงานสุดท้ายอย่างเป็นทางการระบุว่าเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์สลำนี้โดนขีปนาวุธสอยร่วงทางภาคตะวันออกของยูเครน

นายเลียว เตียงไล รัฐมนตรีกระทรวงการคมนาคมมาเลเซีย กล่าวในถ้อยแถลงระบุว่า ในฐานะส่วนหนึ่งของการสืบสวน มาเลเซียยังคงมุ่งมั่นลงมืออย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อจะนำไปสู่การดำเนินคดีกับพวกอาชญากรกระหายเลือด

ด้านนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ก็เผยแพร่ถ้อยแถลงเช่นกัน โดยประกาศว่ารัฐบาลของเขาจะเดินหน้าแสวงหาความยุติธรรมจนกว่าพวกที่อยู่เบื้องหลังการกระทำอันชั่วร้ายนี้จะได้ชดใช้อาชญากรรมที่พวกเขาก่อขึ้น

ในการเปิดตัวรายงานฉบับสุดท้าย ทิบเบ จูสตรา ประธานของคณะกรรมการด้านความปลอดภัยของเนเธอร์แลนด์ แถลงในเนเธอร์แลนด์ว่า เครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส น่าจะถูกยิงตกขีปนาวุธแบบ “บุ๊ก” ชนิดยิงจากพื้นดินสู่อากาศที่ผลิตโดยรัสเซีย

โดยในแผนที่ซึ่งจัดแสดงต่อผู้สื่อข่าวยังบ่งชี้ว่า ขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงออกมาจากดินแดนที่ถูกควบคุมโดยพวกกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซีย ทำให้ผู้ที่อยู่บนเครื่อง 298 คนเสียชีวิตทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นชาวเนเธอร์แลนด์

คณะกรรมการด้านความปลอดภัยของเนเธอร์แลนด์ที่เป็นแกนนำทีมสอบสวนนานาชาติย้ำว่า ภายใต้อำนาจของพวกเขานั้นไม่ได้สรุปว่าใครเป็นคนลั่นไก แต่ทางอัยการเนเธอร์แลนด์ได้ลงมือสืบสวนทางอาญาแยกกันแล้ว

รายงานอย่างเป็นทางการจากการสอบสวนนาน 15 เดือนฉบับนี้ มุ่งหาข้อยุติเกี่ยวกับการคาดเดาไปต่างๆ นานาถึงสาเหตุระเบิดกลางอากาศของเครื่องโบอิ้ง 777 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH17 เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมปีที่แล้ว

มอสโกปฏิเสธมาตลอดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมดังกล่าว และชี้นิ้วไปที่กองกำลังของรัฐบาลยูเครนที่ขณะนั้นกำลังรบกับกบฏแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซียทางตะวันออกของประเทศ ขณะที่ยูเครนและฝ่ายตะวันตกตอกย้ำว่าขีปนาวุธที่ใช้ยิงนั้นผลิตโดยรัสเซีย โดยฝ่ายยูเครนถึงขนาดกล่าวว่า พวกกบฏแบ่งแยกดินแดนยูเครนตะวันออกนั้นไม่สามารถที่จะยิงขีปนาวุธนี้ได้ จึงต้องเป็นฝีมือของนักรบชาวรัสเซียที่ไปช่วยเหลือ

ด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกถ้อยแถลงตอบโต้ในวันอังคาร (13 ต.ค.) ระบุว่า พวกเขามีข้อสงสัยอย่างรุนแรงต่อผลสรุปของคณะสืบสวนนานาชาติที่นำโดยเนเธอร์แลนด์ “มีข้อสงสัยอย่างสาหัสว่าเป้าหมายที่แท้จริงของการสืบสวนที่ดำเนินการในเนเธอร์แลนด์ คือการหาสาเหตุที่แท้จริงที่อยู่เบื้องหลังโศกนาฏกรรมนี้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงหาข้ออ้างวางคำกล่าวหาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว”

ในรายงานของคณะกรรมการด้านความปลอดภัยของเนเธอร์แลนด์บอกด้วยว่า เครื่องบินลำนี้ไม่ควรที่จะบินเข้าไปบริเวณนั้นเลย โดยที่ยูเครนควรประกาศปิดน่านฟ้าของตนไม่ให้เครื่องบินพลเรือนผ่าน พร้อมกับสำทับว่าไม่ได้มีใครคำนึงถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นแก่เครื่องบินโดยสารกันเลย “ในวันเดียวกับ MH17 ถูกยิงตก มีเครื่องบินพาณิชย์ราว 160 ลำ บินอยู่เหนือพื้นที่ดังกล่าว” ผลสืบสวนระบุ

อย่างไรก็ตาม หัวหน้าทีมสืบสวนของเคียฟเรียกผลสรุปดังกล่าวว่าไร้เหตุผล เนื่องจากเหตุเที่ยวบิน MH17 ถูกขีปนาวุธยิงตกนั้นเกิดขึ้นระหว่างที่ยูเครนกำลังดำเนินการปิดน่านฟ้า

“ยูเครนกำลังดำเนินการปิดน่านฟ้า ณ ความสูง 9,750 เมตร หรือน้อยกว่านั้นตามลำดับ” นายเกนนาดีย์ ซูบโค รองนายกรัฐมนตรียูเครนบอกกับผู้สื่อข่าว หลังทีมสืบสวนเนเธอร์แลนด์บอกว่า MH17 กำลังบินอยู่ในระดับความสูงคงที่ 10,100 เมตร “ผมบอกได้แต่ว่าเราปฏิบัติตามคำชี้แนะขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศอย่างครบถ้วน”


กำลังโหลดความคิดเห็น