xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำกลุ่มติดอาวุธ “อัล-นุสรา” สั่งโจมตีชุมชนชีอะห์เผ่า “อัสซาด” แก้แค้นรัสเซียทิ้งบอมบ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

อบู โมฮัมหมัด อัล-โกลานี (ภาพเล็ก) และนักรบกลุ่ม อัล-นุสรา ฟรอนท์ ซึ่งเป็นเครือข่ายอัลกออิดะห์ในซีเรีย
รอยเตอร์ - ผู้นำกลุ่มติดอาวุธ อัล-นุสรา ฟรอนท์ ซึ่งเป็นเครือข่ายอัลกออิดะห์ในซีเรีย เรียกร้องให้บรรดานักรบโจมตีฐานที่มั่นของชุมชนมุสลิมชีอะห์อลาวียะห์ ซึ่งเป็นเผ่าของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เพื่อแก้แค้นที่กองทัพรัสเซียส่งเครื่องบินเข้าไปทิ้งระเบิดสังหารชาวมุสลิมสุหนี่แบบไม่เลือกหน้า

ข้อความเสียงจาก อบู โมฮัมหมัด อัล-โกลานี ที่ถูกโพสต์ลงบนเว็บไซต์ยูทิวบ์ ระบุว่า ปฏิบัติการแทรกแซงทางทหารของรัสเซียตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องความอยู่รอดของระบอบอัสซาด แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีวันสำเร็จ เช่นเดียวกับการสนับสนุนทางทหารจากอิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนที่ไร้ผลมาแล้ว

“ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยกระดับการต่อสู้ และทำลายเมืองและหมู่บ้านของพวกชีอะห์อลาวียะห์ในลาตาเกีย ข้าพเจ้าขอให้พวกเราทุกฝ่ายยิงจรวดใส่หมู่บ้านของพวกมันวันละเป็นร้อยๆ ลูก เหมือนที่พวกมันทำกับหมู่บ้านและเมืองของชาวสุหนี่” โกลานีกล่าว

อัล-นุสรา ฟรอนท์ จัดเป็นกลุ่มติดอาวุธสุหนี่หัวรุนแรงที่มีกองกำลังเข้มแข็งที่สุดกลุ่มหนึ่งในบรรดากบฏที่ทำสงครามต่อสู้กับอัสซาด

ปฏิบัติการทิ้งระเบิดของรัสเซียยิ่งเข้มข้นขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยมอสโกอ้างว่าสามารถทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) และ อัล-นุสรา ฟรอนท์ ในซีเรียได้หลายจุด ทั้งคลังกระสุนปืน ค่ายฝึกนักรบ รวมถึงค่ายทหาร ขณะที่กบฏซีเรียกล่าวหาว่าปฏิบัติการทางอากาศของมอสโกทำให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์ล้มตายไปหลายสิบคน
ภาพถ่ายจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียเมื่อวันที่ 12 ต.ค. เผยให้เห็นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อจุดเดินทางเชื่อมต่อของนักรบไอเอส ที่หมู่บ้านซัลมา จังหวัดลาตาเกียของซีเรีย
โกลานี ชี้ว่า เครื่องบินขับไล่รัสเซียพุ่งเป้าไปที่ฝ่ายกบฏต่อต้านอัสซาด เช่น ไจช์ อัล-ฟาเตห์ และกองกำลังอื่นๆ ที่กำลังต่อสู้กับกองทัพซีเรีย ส่วนเขตอิทธิพลของพวกไอเอสจริงๆ แทบจะไม่ถูกแตะต้องเลย

“(รัสเซีย) รู้ดีว่าไอเอสไม่เป็นภัยคุกคามต่ออัสซาด เพราะดินแดนที่พวกนั้นยึดครองอยู่ไม่ได้ติดต่อกับเขตอิทธิพลของรัฐบาลซีเรีย ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เครื่องบินรัสเซียมุ่งโจมตีเฉพาะฝ่ายกบฏที่ต่อสู้กับอัสซาดโดยตรงเท่านั้น”

ผู้นำกลุ่ม อัล-นุสรา ฟรอนท์ ยังเปรียบเปรยการแทรกแซงของมอสโกว่าเป็น “สงครามครูเสด” จากโลกตะวันออก ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ “เหล่ามุญาฮิดีนประสบชัยชนะอย่างต่อเนื่อง” จนเป็นภัยคุกคามต่อรัฐบาลอัสซาด

“สงครามในดินแดนชาม (ซีเรีย) จะทำให้รัสเซียต้องลืมความหวาดผวาที่พวกเขาเคยพบเจอในอัฟกานิสถาน การรุกรานครั้งนี้จะเป็นการระดมสรรพอาวุธครั้งสุดท้ายของพวกศัตรูแห่งชาวมุสลิม และศัตรูแห่งซีเรีย”

“รัฐบาลรัสเซียคิดหรือว่า แค่เครื่องบินไม่กี่ลำกับปืนไม่กี่กระบอกจะช่วยให้กองทัพซีเรียและ บาชาร์ อัล-อัสซาด อยู่รอดต่อไปได้” โกลานี กล่าวอย่างเย้ยหยัน

“สิ่งที่รัสเซียทำจนถึงทุกวันนี้ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากการโจมตีแบบไม่เลือกที่รัฐบาลซีเรียเคยทำมาก่อน... และท้ายที่สุดพวกเขาจะต้องประสบกับความพ่ายแพ้ที่หน้าประตูเมืองดามัสกัส”

กำลังโหลดความคิดเห็น