รอยเตอร์ - กลุ่มกบฏซีเรียประกาศว่าจะทำการสู้รบครั้งใหม่กับกองกำลังรัฐบาลในวันนี้ (18) สัญญาณการเพิ่มขึ้นของความรุนแรงที่บ่อนทำลายข้อตกลงหยุดยิงและเสี่ยงที่จะทำให้การเจรจาสันติภาพที่มีองค์การสหประชาชาติเป็นคนกลางพังลง
กลุ่มเหล่านี้ซึ่งรวมถึงฝ่ายที่ต่อสู้ภายใต้ร่มธงของกลุ่มฟรีซีเรียนอาร์มีและกลุ่มอิสลามิสต์ทรงฮิทธิพล อาห์ราร์ อัล-ชาม ระบุในถ้อยแถลงว่าพวกเขาจะใช้กำลังตอบโต้กองกำลังรัฐบาลที่ยิงพลเรือน
ข้อตกลงหยุดยิงถูกทำให้ตึงเครียดจนถึงจุดแตกหักเพราะการสู้รบที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะรอบเมืองอเลปโปที่ถูกแยกเป็นสองส่วน โดยแต่ละฝ่ายต่างโทษอีกฝ่ายว่าเป็นชนวนเหตุที่เน้นให้เห็นถึงความท้าทายใหญ่หลวงก่อนหน้าการเจรจาสันติภาพ มีการรายงานถึงการโจมตีทางอากาศอย่างหนักในตอนเหนือของเมืองฮอมส์ด้วย
เจ้าหน้าที่อาวุโสของฝ่ายต่อต้านซึ่งขอไม่ให้เผยนามกล่าวว่า กำลังมีแรงกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ ให้มีการตัดสินใจออกจากการเจรจาที่ถูกจัดขึ้นโดยผู้แทนยูเอ็น สตาฟฟาน เดอ มิสตูรา ในนครเจนีวา โดยที่ไม่มีสัญญาณของความคืบหน้าไปสู่การตัดสินใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองอันเป็นเป้าหมายของฝ่ายต่อต้านประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด
ถ้อยแถลงนี้ประกาศ “การสร้างห้องปฏิบัติการร่วมเพื่อเริ่มต้นการสู้รบ ในการตอบโต้ต่อการละเมิดของกองทัพอัสซาด” พวกเขาไม่ได้ให้ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์สำหรับการสู้รบครั้งใหม่นี้
เมื่อวันอาทิตย์ (17) ผู้แทนการเจรจาอาวุโสของฝ่ายต่อต้านซีเรียเรียกร้องให้กบฏโต้กลับกองทัพซีเรีย พร้อมกล่าวหาว่ากองทัพซีเรียใช้ข้อตกลงยุติการเป็นปฏิปักษ์เพื่อ รุกคืบ และแสดงความสงสัยว่าพวกเขาอาจจะเลื่อนการเจรจาสันติภาพเจนีวาออกไปอย่างไม่มีกำหนด
ข้อตกลงยุติการเป็นปฏิปักษ์ซึ่งมีสหรัฐฯ และรัสเซียเป็นคนกลางมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้การเจรจาสันติภาพเริ่มต้นขึ้น ข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้รวมถึงกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) หรือกลุ่มอัลนุสราฟรอนท์ เครือข่ายของกลุ่มอัลกออิดะห์