รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก แห่งเบลารุส คว้าชัยชนะถล่มทลายในศึกเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ (11 ต.ค.) ที่ผ่านมา รั้งตำแหน่งผู้นำประเทศเอาไว้ได้เป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ความหมองหมางระหว่างกรุงมินสก์กับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย
ประชาชนเบลารุสเคยออกมาเดินขบวนต่อต้านครั้งใหญ่ตอนที่ ลูกาเชนโก ชนะศึกเลือกตั้งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว อันนำมาซึ่งการสั่งจำคุกแกนนำฝ่ายค้านหลายราย
อย่างไรก็ตาม ระดับความนิยมของรัฐบาลลูกาเชนโกที่ผูกขาดอำนาจมานานถึง 20 ปีเริ่มกระเตื้องขึ้น เมื่อเขาออกมาแสดงบทบาทผู้ปกป้องเสถียรภาพในยุโรป ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจและสงครามแบ่งแยกดินแดนในยูเครน
หลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลเบลารุสถูกหมางเมินจากโลกตะวันตก โดยอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ กอนโดลีซซา ไรซ์ ของสหรัฐฯ ถึงกับเคยปรามาสไว้เมื่อปี 2005 ว่า เป็น “รัฐเผด็จการแห่งสุดท้ายในยุโรป” ด้วยประวัติการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนและกดขี่ผู้ต่อต้าน ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่รัฐบาลรวมถึงและบริษัทการค้าบางแห่งของเบลารุสยังคงตกอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก
อย่างไรก็ดี ลูกาเชนโก ได้ออกมาประณามรัสเซียที่ช่วงชิงคาบสมุทรไครเมียไปจากยูเครนเมื่อปีที่แล้ว และยังอาสาให้กรุงมินสก์เป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาสันติภาพยูเครน รวมถึงประกาศอภัยโทษให้แก่แกนนำฝ่ายค้าน 6 คนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความพยายามของผู้นำเบลารุสที่จะปรับภาพลักษณ์ของตนเสียใหม่
“เราได้ดำเนินการตามที่ตะวันตกต้องการทุกอย่างในช่วงก่อนวันเลือกตั้ง หากตะวันตกต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเบลารุส ก็ไม่มีใครหรือสิ่งไหนมาห้ามปรามได้” ลูกาเชนโก กล่าวขณะหย่อนบัตรลงคะแนนของเขาลงในหีบเลือกตั้ง
คณะกรรมการกลางการเลือกตั้งแห่งเบลารุส ประกาศว่า ลูกาเชนโก กวาดชัยชนะไปแบบถล่มทลาย ด้วยคะแนนเสียง 83.5% ซึ่งสูงกว่าสถิติ 80% ที่เขาเคยทำไว้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2010
ทั้งนี้ มีประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งราว 6.5% ที่โหวตไม่เลือกผู้สมัครคนใดเลย
ความสัมพันธ์ระหว่างกรุงมินสก์กับมอสโกซึ่งเคยเป็นเจ้าพระเดชนายพระคุณในยุคสหภาพโซเวียต เริ่มปรากฏสัญญาณระหองระแหงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเมื่อเดือนกันยายน ประธานาธิบดี ปูติน ได้อนุมัติแผนก่อสร้างฐานทัพอากาศในเบลารุส แต่พอมาต้นเดือนนี้ ลูกาเชนโก กลับประกาศว่า “ไม่ต้องการ” ฐานทัพดังกล่าว ซึ่งผู้สังเกตการณ์เชื่อว่าเป็นความพยายามของเขาที่จะบรรเทากระแสต่อต้านในช่วงก่อนเลือกตั้ง
สหภาพยุโรปจะระงับมาตรการคว่ำบาตรเบลารุส รวมถึงบทลงโทษต่อตัว ลูกาเชนโก เป็นระยะเวลา 4 เดือน หลังการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ (11) ผ่านพ้นไปโดยไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น
