เอเอฟพี - ผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือ กล่าวกับผู้แทนรัฐบาลจีนที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ส่งไปเยือนกรุงเปียงยางว่า อยากจะฟื้นฟูความสัมพันธ์อันดีกับเกาหลีใต้ สื่อของปักกิ่งรายงานวันนี้ (10 ต.ค.)
ผู้นำคิมแสดงทีท่ายื่นไมตรีต่อกรุงโซล ระหว่างการพบปะกับนายหลิว หยุนซาน กรรมการประจำกรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อวานนี้ (9) ซึ่งถือเป็นวันสุกดิบก่อนที่เปียงยางจะมีพิธีสวนสนามใหญ่ เพื่อฉลองครบรอบ 70 ปีการก่อตั้งพรรคแรงงาน
สำนักข่าวซินหวา รายงานว่า หลิว ซึ่งเป็นผู้นำเบอร์ 5 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้มอบจดหมายจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้แก่ผู้นำเกาหลีเหนือ พร้อมกล่าวสำทับว่าความสัมพันธ์อันดีกับเปียงยางเป็นสิ่งที่รัฐบาลจีน “ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง”
ด้านผู้นำคิมก็ได้กล่าวตอบว่า เกาหลีเหนือต้องการเห็น “บรรยากาศภายนอกประเทศเป็นไปอย่างสันติและมีเสถียรภาพ ขณะที่รัฐบาลเกาหลีเหนือกำลังเร่งพัฒนาเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน”
“สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีมีความเต็มใจที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเกาหลีใต้ เพื่อธำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลี” ซินหวาอ้างคำพูดของผู้นำคิม
หลิวได้บอกกับคิมว่า การรักษาสันติภาพและเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลี “จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย” และจีนก็ “พร้อมที่จะทำงานร่วมกับเกาหลีเหนือ เพื่อให้การเจรจาลดอาวุธ 6 ฝ่ายเริ่มต้นขึ้นใหม่อีกครั้ง”
สหรัฐฯ รัสเซีย จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และเกาหลีเหนือ เคยริเริ่มการเจรจา 6 ฝ่ายขึ้นเมื่อปี 2003 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโน้มน้าวให้ผู้นำเปียงยางยอมล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ แต่หลังจากที่เปียงยางตัดสินใจเดินออกจากวงประชุมในปี 2008 ความพยายามทางการทูตทั้งหมดก็ต้องหยุดชะงักไป
เกาหลีเหนือมักแสดงพฤติกรรมยั่วยุโดยไม่ฟังคำทัดทานของจีน โดยเฉพาะในเรื่องนิวเคลียร์ ซึ่งทำให้มหามิตรอย่างปักกิ่งไม่พอใจนัก
สายสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือถูกผูกมัดไว้อย่างแน่นแฟ้นด้วยเลือดของทหารจีนที่เคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารโสมแดง ในช่วงสงครามเกาหลีปี 1950-53 แม้แต่ประธานเหมา เจ๋อตง ยังเคยเปรียบเปรยมิตรภาพระหว่างปักกิ่งกับเปียงยางไว้ว่า ใกล้ชิดดุจ “ริมฝีปากกับฟัน”
คิม จองอึน ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสูงสุดของโสมแดงแทนบิดา คิม จองอิล ที่ถึงแก่กรรมไปเมื่อปี 2011 ยังไม่เคยพบหน้าสี จิ้นผิง แม้แต่ครั้งเดียว ในขณะที่ สี ได้ร่วมโต๊ะพูดคุยกับประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้มาแล้วถึง 6 ครั้ง ตั้งแต่เธอเข้ารับตำแหน่งในปี 2013