เอเอฟพี - มหาเศรษฐีปากเปราะ “โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้สมัครตัวเก็งของพรรครีพับลิกัน ประกาศจะส่งผู้ลี้ภัยหลายแสนคนที่หนีมาพึ่งใบบุญสหรัฐฯ กลับไปซีเรียให้หมด ถ้าตนได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2016
ทรัมป์ ได้แถลงจุดยืนของเขาต่อสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ในวันเดียวกับที่รัสเซียเริ่มต้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในหลายจังหวัดทางภาคกลางและเหนือของซีเรีย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่แดนหมีขาวส่งทหารออกไปทำสงครามนอกประเทศ หลังจากที่สหภาพโซเวียตรุกรานอัฟกานิสถานเมื่อปี 1979
“ว่ากันตามจริง... ถ้ารัสเซียอยากเข้าไปทำสงครามในซีเรียนัก ก็คงดีไม่น้อยถ้าเราสามารถผนึกกำลังกัน และหากรัสเซียเข้าไปขับไล่พวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) ก็จะทำให้การอพยพของผู้ลี้ภัย 200,000 กว่าคนมายังสหรัฐฯ (ยุติลง) ” ทรัมป์ กล่าว
“ผมขอบอกไว้ตรงนี้ และขอฝากไปถึงผู้ลี้ภัยทั้ง 200,000 กว่าคนด้วยว่า ถ้าผมชนะเลือกตั้ง พวกคุณจะต้องกลับไป (ซีเรีย) ขอให้พวกคุณและทั่วโลกรับทราบไว้ด้วย”
“เราจะไม่ยอมเปิดบ้านต้อนรับคน 200,000 คนที่อาจจะเป็นพวกไอเอสแฝงตัวมาก็ได้ เราไม่มีทางรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร และผมขอบอกคุณว่า ที่พวกเขาเข้ามาได้ก็เพราะความอ่อนแอของ (ประธานาธิบดี) โอบามา”
วอชิงตันเชื่อว่ารัสเซียกำลังใช้เรื่องการโจมตีไอเอสเป็นข้ออ้าง แต่ที่จริงกลับส่งเครื่องบินเข้าไปทิ้งระเบิดเพื่อบั่นทอนกำลังของฝ่ายกบฏที่ต่อต้านประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด
สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรกล่าวโทษ อัสซาด ว่าเป็นต้นเหตุของสงครามกลางเมืองที่คร่าชีวิตชาวซีเรียไปแล้วกว่า 240,000 คน และยังทำให้ยุโรปต้องเผชิญวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่
จุดยืนของตะวันตกแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับรัสเซีย ซึ่งเชิญชวนนานาชาติให้เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรข่าวกรองที่มอสโกก่อตั้งร่วมกับอิรัก อิหร่าน และซีเรีย พร้อมระบุว่าการสนับสนุนรัฐบาลอัสซาดให้เข้มแข็งเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งไอเอสได้