xs
xsm
sm
md
lg

“นายกฯ ตู่” พบหารือ จนท.ระดับสูงยูเอ็นด้านปราบยาเสพติด-อาชญากรรม ย้ำจุดยืนไทยกวาดล้าง “ขบวนการค้ามนุษย์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยเข้าพบหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมขององค์การสหประชาชาติ พร้อมเน้นย้ำจุดยืนของรัฐบาลไทยชุดปัจจุบันในการเดินหน้ากวาดล้างยาเสพติดและอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหา “ขบวนการค้ามนุษย์”

รายงานข่าวที่ถูกเผยแพร่ออกมาล่าสุดในวันอาทิตย์ (27 ก.ย.) ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยได้เข้าพบหารือกับนายยูริ เฟโดตอฟ ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (The United Nations Office on Drugs and Crime - UNODC) ที่มหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ทั้งนี้ เพื่อแสดงความขอบคุณต่อนายเฟโดตอฟที่เคยถวายงานแด่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทั้งในขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งประธานการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา (Commission on Crime Prevention and Criminal Justice - CCPCJ) สมัยที่ 21 และเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสำนักงานสหประชาชาติ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีของไทย และผู้อำนวยการสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ได้ยืนยันจะส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างไทยและ UNODC ต่อไป โดย พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า ไทยพร้อมสนับสนุน UNODC ในการจัดการกับปัญหา “อาชญากรรมข้ามชาติ” ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือภูมิภาคอาเซียนด้วย

ความเคลื่อนไหวล่าสุดถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจนอกรอบของผู้นำรัฐบาลไทย ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 ณ สำนักงานใหญ่ยูเอ็นในนิวยอร์ก

ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีของไทยได้ใช้โอกาสในการเข้าพบกับผู้อำนวยการใหญ่ UNODC ในครั้งนี้ เพื่อเน้นย้ำถึงความพยายามของไทยในการกวาดล้างและป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหาการลักลอบขนยาเสพติดและการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาที่ไทยกำลังถูกกดันอย่างหนักทั้งจากสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (อียู)

ก่อนหน้านี้เพียง 1 วัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดระดับผู้นำ เพื่อรับรองวาระการพัฒนาหลังปี ค.ศ. 2015 หรือการประชุม “POST 2015 Summit” ที่เป็นหนึ่งในการประชุมย่อยของสมัชชาใหญ่ยูเอ็น และจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ร่วมกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ภายใต้หัวข้อ “Ending poverty and hunger”

นายกรัฐมนตรีของไทยได้เรียกร้องต่อที่ประชุมว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศต่างๆ จะต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ต้องดำเนินไปควบคู่กับ “ความสมดุลและความยั่งยืน” ทั้งนี้ก็เพื่อขจัดปัญหาความยากจนและความอดอยากหิวโหยของประชากรโลก รวมถึงการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเท่าเทียมในสังคม

ในตอนหนึ่งของถ้อยแถลงของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีการเผยแพร่ในวันเสาร์ (26 ก.ย.) ระบุว่า ที่ผ่านมารัฐบาลชุดปัจจุบันของไทย ได้ให้ความสำคัญกับแนวทางการพัฒนาประเทศ ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนและทั่วถึงบนหลักของ “ความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน” เพื่อรับมือกับความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลง จากทั้งภายในและภายนอกประเทศ และว่าการพัฒนาที่ประเทศไทยกำลังเร่งขับเคลื่อนตามหลักดังกล่าวยังมุ่งเน้นให้ประชาชนพึ่งพาตนเอง ด้วยการสร้างงาน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่เน้นวัตถุนิยม-บริโภคนิยมด้วยเช่นกัน

ด้านแหล่งข่าวทางการทูตในนิวยอร์กเผยว่า นายกรัฐมนตรีของไทยจะใช้โอกาสในการเดินทางเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติคราวนี้ ในการรณรงค์ขอเสียงสนับสนุนจากชาติสมาชิกให้โหวตหนุนไทยเข้าเป็น “สมาชิกแบบไม่ถาวร” ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ระหว่างปี 2017-2018 ซึ่งรายงานข่าวล่าสุดระบุว่า กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา “G 77” ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 1964 และมีสมาชิกในปัจจุบัน 134 ประเทศ มีแนวโน้มอาจออกเสียงสนับสนุนไทยในเรื่องนี้ ระหว่างการลงมติที่จะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนปี 2016 ระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่สมัยที่ 71 ของสหประชาชาติในปีหน้า