xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ยันคว้า ปธ.จี 77 สะท้อนต่างชาติเชื่อมั่นไทย ชวนคนเห็นต่างมาคุยกันเลิกขัดแย้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” แจงยิบภารกิจประชุมยูเอ็น ระบุได้รับเลือกเป็นประธานกลุ่มจี 77 จากประสบการณ์ลดความยากจน สะท้อนนานาชาติเชื่อมั่นประเทศไทย ขอบคุณทีมทูต-ข้าราชการทำงานหนักจนสำเร็จลุล่วง ปลื้มแฟนคลับทั่วอเมริกาแห่มาให้กำลังใจ ฝากถึงพวกเห็นต่างอยากให้มาคุยกัน ลั่นเสียเวลาในเรื่องขัดแย้งต่อไปไม่ได้อีกแล้ว


วันนี้ (2 ต.ค.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงภารกิจเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 ที่นครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ในระหว่างวันที่ 23 ก.ย. - 1 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ในห้วงที่อัดรายการอยู่นี้ตนยังคงปฏิบัติภารกิจอยู่ที่นครนิวยอร์ก โดยการประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยที่จะได้แสดงจุดยืน มีความคืบหน้าของการเดินหน้าประเทศตามโรดแมปของเราในห้วงที่ผ่านมา ตนได้เป็นตัวแทนประเทศในการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ตั้งแต่การร่วมประชุมทีมประเทศไทยในสหรัฐฯ และได้มอบนโยบายในการช่วยกันสร้างความเข้าใจกับต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศด้านต่างๆ โดยเน้นย้ำคำว่า “ประชารัฐ” ว่าเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน และประชาชน

“ผมได้รับรายงานจากคณะทำงานหรือทีมประเทศไทยว่าภาพลักษณ์ของไทยในสายตาของคนอเมริกัน หรือคนต่างชาติที่นี่ไม่มีปัญหา ยังคงมีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในประเทศไทยอยู่เช่นเดิม คนอเมริกันชื่นชอบอาหารไทย ชื่นชมความมีน้ำใจของคนไทย ชอบรอยยิ้มของคนไทย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ยังได้กล่าวถึงการเข้าร่วมประชุมที่สำคัญๆ หลายวาระ อาทิ การร่วมกล่าวเสวนาในหัวข้อ “Ending poverty and hunger” ในการประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำเพื่อรับรองวาระการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. 2015 (POST 2015 Summit) ซึ่งได้มีโอกาสเผยแพร่หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ประชาคมโลกได้รับทราบ รวมทั้งมีการนำนิทรรศการการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy : An Approach to Sustainable Development) มาจัดแสดงด้วย ต่อมาได้พบปะหารือกับผู้แทนระดับจากสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (US-ASEAN Business Council : USABC) และบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ ซึ่งได้เน้นย้ำยืนยันเจตนารมณ์ในการดำเนินการตามโรดแมป และการวางรากฐานการปฏิรูปประเทศในทุกๆ ด้าน ทั้งยังได้มีโอกาสหารือทวิภาคีกับผู้อำนวยการบริหาร สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime - UNODC) และผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา (United Nations Office in Vienna - UNOV) ซึ่งเราได้แจ้งถึงการยกระดับการป้องกันและการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ การลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐาน รวมทั้งการต่อต้านการทุจริตทั้งในระดับประเทศและภูมิภาคให้เป็นวาระแห่งชาติ

นายกฯ กล่าวต่อไปว่า ตนได้มีโอการเข้าร่วมในงานฉลองครบรอบ 150 ปี สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) และเป็นตัวแทนประเทศไทยรับรางวัล ITU Global Sustainable Digital Development Award ในฐานะประเทศผู้นำในการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพื่อนำระบบงานดิจิทัลเข้าไปขับเคลื่อนประเทศอีกด้วย โดยไทยได้รับเลือกเป็นที่ตั้งของสำนักงานประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ตั้งแต่ 23 ปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นฐานในการขยายการสนับสนุนและความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกในภูมิภาค ซึ่งขณะนี้ประชาคมโลกเริ่มตระหนักถึงภัยคุกคามอันเกิดจากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้ในทางที่ผิด เราจึงจะต้องเสริมสร้างการระมัดระวัง เฝ้าระวังและสร้างความตระหนักรู้ในการใช้เทคโนโลยีนี้ในทางที่เหมาะสม ในทางที่สร้างสรรค์

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสกล่าวถ้อยแถลงในหัวข้อ “ส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำอย่างทั่วถึงเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” เน้นในเรื่องของการเข้าถึงน้ำที่ปลอดภัย สุขาภิบาลที่ดี พัฒนาคุณภาพน้ำ การบริหารจัดการน้ำเสีย และการปกป้อง ฟื้นฟูระบบนิเวศที่เกี่ยวกับน้ำ และได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และแนวพระราชดำริด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำต่างๆ เหล่านั้น มาดำเนินการเพื่อสร้างความสมดุลในการพัฒนาด้านต่างๆ นอกจากนี้ยังได้กล่าวถ้อยแถลงในหัวข้อ “การส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ได้มีการปรับปรุงพัฒนากฎหมายต่างๆ ในการส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาคระหว่างเพศ คุ้มครองผู้หญิงและเด็กจากความรุนแรงในครอบครัว การถูกล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศในการทำงาน สำหรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของไทยฉบับต่อไปก็จะส่งเสริมบทบาทสตรีให้มีส่วนร่วมผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างเท่าเทียม

นายกฯ เปิดเผยถึงการหารือทวิภาคีกับผู้นำประเทศต่างๆ ด้วยว่า ได้มีโอกาสพบกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐจีน นายกรัฐมนตรีแอนติกาและบาร์อูดา ตลอดจนการหารือทวิภาคีกับ นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งพร้อมจะสนับสนุนการทำงานของเลขาธิการฯ และแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์อย่างแข็งขันต่อไป สำหรับสถานการณ์การเมืองไทยในปัจจุบัน ตนยืนยันว่า ยังคงเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่เรียกว่าโรดแมป และประเทศไทยได้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) วาระปี ค.ศ. 2017-2018 ด้วย นอกจากนี้ไทยยังได้รับตำแหน่งประธานกลุ่มจี 77 อันเป็นองค์กรความร่วมมือระดับรัฐบาลของประเทศกำลังพัฒนา สำหรับวาระปี 2559 เนื่องจากทางกลุ่มจี 77 ได้มีการคัดเลือกจากประเทศที่มีประสบการณ์ และประเทศที่ประสบความสำเร็จในการลดความยากจน สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยในเวทีโลกในขณะนี้

ในช่วงท้ายรายการ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ในการเยือนครั้งนี้ตนและคณะได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่ง อย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง โดยได้มีโอกาสได้ไปเยือน 9/11 Memorial ที่ Ground Zero เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้ที่เสียชีวิตซึ่งมีสุภาพสตรีชาวไทยเสียชีวิตด้วย 1 ราย โอกาสนี้ขอขอบคุณทีมประเทศไทย เอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ เอกอัครราชทูตประจำกรุงวอชิงตัน ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนที่ให้การสนับสนุน อำนวยความสะดวก ให้กำลังใจ จนทำให้ตนและคณะสามารถปฏิบัติภารกิจได้ลุล่วงเป็นอย่างดี ขอบคุณคนไทยทั้งประเทศที่ติดตาม รวมทั้งที่สหรัฐฯ จากหลายๆ รัฐที่ทราบว่าเหน็ดเหนื่อยมาให้การสนับสนุนตน แต่ไม่มีโอกาสได้ไปพบใกล้ๆก็ได้มองเห็นในระหว่างเดินทางไปประชุม ตนถือว่าเป็นกำลังสำคัญให้กับประเทศชาติของเราก้าวต่อไปข้างหน้าเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ขณะที่ผู้เห็นต่างนั้น ก็อยากจะให้หันหน้ามาพูดคุยกัน เราเสียเวลาในเรื่องที่ขัดแย้งกันต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

“อีกเรื่องหนึ่งก็อยากจะให้บรรดาคนไทยที่อยู่ต่างประเทศรับทราบก็คือ ขณะนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น ทรงพระราชทานความห่วงใยให้กับคนไทยเสมอมา หวังว่าทุกท่านคงจะช่วยกันถวายพระพรชัยให้พระองค์ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนยาว” นายกฯ ระบุ

คำต่อคำ : รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” วันที่ 2 ตุลาคม 2558

“สวัสดีครับ...พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน ในห้วงที่อัดรายการอยู่นี้ ผมยังคงปฏิบัติภารกิจอยู่ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็คิดถึงทุกท่าน เนื่องจากว่าเรามาหลายวันแล้วขณะนี้ ในการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 70 ครั้งนี้ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทย ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกที่เราจะได้แสดงจุดยืน มีความคืบหน้าของการเดินหน้าประเทศตามโรดแมปของเราในห้วงที่ผ่านมา ผมก็ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยและพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนในการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ดังต่อไปนี้

วันที่ 24 กันยายน 2558 หลังจากที่เดินทางมาถึงสหรัฐอเมริกา ผมได้เข้าร่วมการประชุมทีมประเทศไทยในสหรัฐอเมริกา ได้มอบนโยบายให้กับหน่วยงานราชการไทยในสหรัฐอเมริกา ซึ่งประกอบด้วย 13 หน่วยงาน ได้ขอให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจกับต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศ เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในระหว่างการเดินหน้าปฏิรูปในทุกด้าน

การแก้ปัญหาของประเทศเรานั้นคงต้องใช้เวลา แต่ประสบความสำเร็จดี วัดได้จากสถานการณ์บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย มีความมั่นคงปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ได้แต่ขอให้ช่วยดูแลกันรักษาให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหมือนเดิม และผลักดันผลประโยชน์ของคนไทย ประเทศไทยให้ได้ต่อไป ตลอดจนย้ำจิตสำนึกของความเป็นคนไทย แม้ว่าประเทศเรานั้นจะมีความเจริญไปข้างหน้า แต่เราต้องไม่ลืมความเป็นไทย เรียกว่าปลุกจิตสำนึกไทยตลอดเวลา และผมได้ชี้แจงสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการในทุกๆ ด้าน อาทิเช่น การลงทุนด้านการศึกษา เพื่อเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การส่งเสริมและวิจัยพัฒนา สร้างนวัตกรรมให้นำไปสู่การผลิต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ มีการบริหารงานแบบบูรณาการ และเน้นคำว่าประชารัฐเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างรัฐ เอกชน และประชาชน

นอกจากนั้น ได้รับรายงานจากคณะทำงาน หรือทีมประเทศไทยว่าภาพลักษณ์ของไทยในสายตาของคนอเมริกัน หรือคนต่างชาติที่นี่ไม่มีปัญหา ยังคงมีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในประเทศไทยอยู่เช่นเดิม คนอเมริกันชื่นชอบอาหารไทย ชื่นชมความมีน้ำใจของคนไทย ชอบรอยยิ้มของคนไทย ผมก็ได้ถือโอกาสชี้แจงสิ่งที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการต่อไปในอนาคตด้วย ก็คือในเรื่องของการเตรียมพร้อม ในการปรับปรุง ระเบียบกฎหมายต่างๆ เช่น เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม แรงงาน สุขอนามัย ด้านอาหาร กระบวนการผลิตต่างๆ มีการเปิดตลาดการท่องเที่ยวใหม่ๆ รองรับลูกค้าใหม่ๆ ที่อาจจะเป็นกลุ่มนักศึกษาที่จบใหม่ เพิ่มมากขึ้นด้วย

ในวันที่ 25 กันยายน 2558 ได้มีโอกาสรับฟังถ้อยแถลงของสมเด็จพระสันตะปาปา มีหลายประเด็น ที่สอดคล้องกับแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยและก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำอยู่ ผมขอยกตัวอย่างง่ายๆ บางประเด็นที่ท่านกล่าวมาก็คือ ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้น ต้องมีการทำอย่างต่อเนื่อง และเป็นขั้นตอน ทุกฝ่ายมีหน้าที่ต้องช่วยกันหยุดการค้ามนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด รัฐบาลนี้ก็ได้ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติไปแล้ว ก็เห็นผลงานปรากฏมาโดยตลอด ฉะนั้นในการประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำเพื่อรับรองวาระการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. 2015 และได้มีการร่วมกล่าวเสวนาในหัวข้อ Ending poverty and hunger เป็นการเผยแพร่หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ประชาคมโลกได้รับทราบ และยินดีที่ประชาคมโลกได้ให้ความสำคัญกับการกำหนดวาระการพัฒนาซึ่งเป็นการเน้นการแก้ปัญหาอย่างสมดุลและยั่งยืน รวมทั้งการกำจัดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำซึ้งก็เป็นเป้าหมายสำคัญและท้าทายสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนของพวกเรา เป็นเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาทั้งในประเทศ และในระดับโลกด้วยที่จะต้องพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างความสมดุล ปราศจากความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเท่าเทียมในสังคม

ประเทศไทยนั้นเราทราบดีอยู่แล้วว่าถึงแม้สัดส่วนของคนจนจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือร้อยละ 10.53 ในปี 2557 จากเดิมร้อยละ 42 ในปี 2543 แต่ความเหลื่อมล้ำเหล่านั้นยังคงเป็นปัญหาสำคัญของสังคมไทย จากโครงสร้างเศรษฐกิจที่ยังไม่สมดุล ปัญหาการกระจุกตัวของการถือครองที่ดิน และการใช้ทรัพยากรของประเทศ รัฐบาลไทยในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสในสังคม และให้โอกาสการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรของประเทศอย่างทัดเทียมกัน ระหว่างนี้ดำเนินการอยู่ทั้งสิ้น

สำหรับแนวทางในการพัฒนาของประเทศไทยนั้น รัฐบาลได้รับแรงบันดาลใจจากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เน้นการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนและทั่วถึง บนหลักของการพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้ เพื่อเอาชนะความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศอีกด้วย รัฐบาลได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นพื้นฐานในการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งวันนี้กำลังทำในแผนที่ 12 อยู่ เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับประเทศอื่นๆ ที่มีการพัฒนาระดับต่างๆ ได้ โดยรัฐบาลได้ดำเนินการให้มีการส่งเสริมการทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืน เกษตรอินทรีย์ ลดการใช้สารเคมี ตลอดจนส่งเสริมตลาดชุมชน ลดกลไกพ่อค้าคนกลาง สร้างเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมโซเชียล บิสซิเนส พัฒนาศักยภาพเอสเอ็มอี เพื่อเชื่อมโยงธุรกิจขนาดใหญ่แบบพี่สอนน้อง และเชื่อมโยงกับภูมิภาคของโลกด้วย

รวมทั้งให้มีการสร้างกลไกในการบริหารจัดการทรัพยากร แหล่งน้ำ ที่ดิน ป่าไม้ของประเทศอย่างบูรณาการและยั่งยืน ทั้งนี้ จะต้องไม่เสียดุลยภาพทางสังคม และสิ่งแวดล้อมด้วย ต่อไปคือเรื่องของการดำเนินการจัดการด้านแรงงาน เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย ได้จัดตั้งศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทยที่เรียกว่า Smart Job Center ทั่วประเทศ ทำให้อัตราส่วนการมีงานทำของไทยสูงถึงร้อยละ 98.7 สำหรับการสร้างความเข้มแข็งของประเทศนั้น เราคิดว่าคงต้องเริ่มจากชุมชนก่อน ด้วยการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เรียกว่า OTOP ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พัฒนาองค์ความรู้ให้ชุมชนเกษตรกรรม ด้วยศูนย์การเรียนรู้ สร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ของผู้มีรายได้น้อย เช่นกองทุนหมู่บ้าน ตำบล สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และอื่นๆ

ในโอกาสพบปะหารือกับผู้แทนจากสภาธุรกิจในอาเซียน และบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ หลายบริษัทด้วยกัน ซึ่งจริงๆ แล้ว ผมได้มีโอกาสพบมาโดยตลอด ทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศด้วย ผมก็ได้พูดคุยถึงในสถานการณ์ในประเทศไทยก่อนและหลังพฤษภาคม 2557 แล้วก็เน้นย้ำ ยืนยันเจตนารมณ์ในการดำเนิการตามโรดแมป ทั้งนี้จะใช้เวลาที่มีอยู่นี่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทย และประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย ด้วยการวางรากฐาน การปฏิรูปประเทศในทุกๆ ด้าน เพื่อจะพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในด้านการแข่งขัน วางระบบโครงสร้างพื้นฐานในด้านต่างๆ ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการปรับกฎระเบียบและข้อตกลงให้มีมาตรฐานสากล การเตรียมความพร้อมไปสู่การเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ทั้งในด้านการผลิตสินค้า การให้บริการ และการส่งเสริมการลงทุน รวมไปถึงการพัฒนาบุคลากร แรงงานมีฝีมือ ให้มีคุณภาพควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการคมนาคมขนส่งและลอจิสติกส์ให้ทันสมัย

จากนั้นได้มีเวลาในการร่วมชมนิทรรศการการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งทางมูลนิธิมั่นพัฒนาได้มาจัดแสดงที่สถานที่การประชุมด้วย เป็นการเผยแพร่หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมีความสอดคล้อง และเป็นแนวทางหนึ่งในการที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่สามารถจะนำไปประยุกต์ใช้กับบางประเทศ หรือประเทศที่มีการพัฒนาในระดับที่ต่างๆ กันอยู่ในขณะนี้ ก็ได้ให้ผู้เข้าร่วมการประชุม ผู้สนใจ ประเทศต่างๆ ได้รับทราบ ก็ได้รับความสนใจพอสมควร เพื่อจะนำไปสู่การสร้างความร่วมมือในด้านการพัฒนาระหว่างไทยและประเทศต่างๆ ต้องขอบคุณคณะผู้จัดนิทรรศการด้วยที่เดินทางมา

วันที่ 26 กันยายน 2558 ได้มีโอกาสหารือทวิภาคีกับผู้อำนวยการบริหารสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ และผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา โดยเรียนว่า ไทยยกระดับปัญหาต่างๆ ทั้งการป้องกันและการปราบปราม อาชญากรรม ข้ามชาติยาเสพติด การค้ามนุษย์ การลักลอบขนผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน รวมทั้งการต่อต้านการทุจริต ทั้ง ในระดับประเทศ และภูมิภาคอีกด้วย ให้เป็นวาระแห่งชาติ ได้มีการสั่งการ ดำเนินการ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการปรับปรุงกฎหมายภายใน กระบวนวีธีการในการปฏิบัติ เพื่อเป็นไปตาม นโยบายนี้ เพราะว่าปัญหาเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของไทย ความเชื่อมั่น และทำให้เกิดแรงกระทบต่อเนื่องแก่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้อีกด้วย

ผมนั้น ยืนยันความจริงใจในการต่อต้านการค้ามนุษย์ และได้ยกระดับการดำเนินการด้านการป้องกัน การปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ โดยล่าสุดได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเน้นในเรื่องของการดำเนินการปราบปรามการค้ามนุษย์และการดำเนินไปอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งระดับใหญ่ ระดับเล็ก กับขบวนการค้ามนุษย์ ให้มีการดำเนินการเข้ากับการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว และมีการแก้ไขการใช้แรงงานบังคับในภาคอุตสาหกรรมประมง

จากนั้นก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมในงานฉลองครบรอบ 150 ปี ของสหภาพโทรคมนาคม ระหว่างประเทศ ITU และได้รับรางวัล ITU อีกด้วย อันนี้ไทยได้รับเลือกเป็นที่ตั้งของสำนักงานประจำภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ตั้งแต่ 23 ปีที่ผ่านมา สำหรับเป็นฐาน ITU ในการขยายการสนับสนุน และความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกในภูมิภาค สำหรับการสร้างสังคมสารสนเทศนั้นจะทำให้ประชากรทั่วโลกเข้าถึง และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างเท่าเทียมกัน สำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศนั้น เป็นเครื่องมือสู่การบรรลุเป้าหมายแห่งการพัฒนาแห่งศตวรรษภายในปี ค.ศ. 2015 เพื่อจะส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการพัฒนาอีกด้วย

ในส่วนของสารสนเทศนี้นั้น จริงๆ แล้วอยากจะกราบเรียนว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงริเริ่มมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการถ่ายทอดทางไกลผ่านดาวเทียม ซึ่งได้ดำเนินการมาทำให้ลูกหลานของเราได้มีความรู้ความเข้าใจ และได้รับการเรียนรู้การศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ซึ่งวันนี้เราเร่งดำเนินการไปอีกระดับหนึ่งแล้ว วันนี้น่ายินดีสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงริเริ่มมายาวนานแล้วนั้นได้รับการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประชาคมโลกในปัจจุบัน

ในเรื่องต่อไปคือ ประชาคมโลกเริ่มตระหนักถึงภัยคุกคามอันเกิดจากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้ในทางที่ผิด เพราะฉะนั้นเราจะต้องเสริมสร้างการระมัดระวัง เฝ้าระวัง และสร้างความตระหนักรู้ในการใช้เทคโนโลยีนี้ในทางที่เหมาะสม ในทางที่สร้างสรรค์ ไทยได้รับรางวัลในฐานะประเทศผู้นำในการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานดิจิตอล เพื่อจะนำไปขับเคลื่อนประเทศ และไทยกำลังปรับรูปแบบของดิจิตอลประเทศเราเป็นลักษณะ Digital Economy ด้วยในปัจจุบัน ไทยก็จะขอเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะสร้างสังคมสารสนเทศเพื่อประชาคมโลก และยินดีพร้อมที่จะแบ่งปันประสบการณ์ และความสำเร็จกับมิตรประเทศ และรับฟังคำแนะนำ พร้อมจะเป็นสะพานเชื่อมประเทศต่างๆ ของประชาคมโลกต่างๆ ให้ก้าวไปพร้อมกันด้วย

ในวันที่ 27 กันยายน 2558 ผมจะได้กล่าวในถ้อยแถลงในหัวข้อ ส่งเสริมการบริหารน้ำจัดการอย่างทั่วถึง เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และในเรื่องของการเข้าถึงน้ำที่ปลอดภัย สุขาภิบาลที่ดี พัฒนาคุณภาพน้ำ การบริหารจัดการน้ำเสีย และการปกป้องพื้นฟูระบบนิเวศที่เกี่ยวกับน้ำ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการด้านบริหารจัดการน้ำ ไทยมีแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำ 12 ปี 2558-2569 อย่างบูรณาการและครอบคลุมในทุกมิติ ให้เกิดความยั่งยืนต่อเนื่อง ทั้งนี้ ผมได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และแนวพระราชดำริด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำต่างๆเหล่านั้นมาดำเนินการเพื่อสร้างความสมดุล ในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งเวดล้อม ให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี รักษาระบบนิเวศ สร้างสมดุลทางธรรมชาติ โดยได้เน้นให้เกิดการมีส่วนร่วมมีความร่วมมือของภาคประชาชนในแต่ละท้องถิ่น เราจะต้องลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพของประชาชน สร้างความสมดุลระหว่างการอุปโภคบริโภค ให้ความสำคัญต่อการป้องกันและลดผลกระทบจากภัยพิบัติที่เกี่ยวกับน้ำ

เรื่องโครงการแก้มลิงก็เช่นเดียวกัน จำเป็นต้องมี เพื่อเก็บกักน้ำไว้ ชะลอน้ำหลากด้วย บรรเทาปัญหาน้ำท่วม และเก็บกักน้ำไว้ใช้ในยามฤดูแล้ง

สำหรับการกล่าวถ้อยแถลงในหัวข้อ “การส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและส่งเสริมบทบาทสตรี” นั้น ไทยก็ยึดมั่นในสิทธิมนุษยชนเสมอมาอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยนั้น ผู้หญิงถือเป็นกำลังสำคัญที่สามารถจะเดินเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชายได้อย่างสง่างาม เยาวชนหญิง-ชายมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียม คุ้มครองทุกคนจากการถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุจากการเป็นเพศสภาพ ไทยได้มีการปรับปรุง พัฒนากฎหมายต่างๆ มากมาย ในการส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาคระหว่างเพศ คุ้มครองผู้หญิงจากความรุนแรงในครอบครัว การถูกล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศในที่ทำงาน การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ดูแลและฟื้นฟูผู้เสียหาย ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้หญิงและเด็ก

สำหรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของไทยฉบับต่อไป ที่เรียกว่าฉบับที่ 12 ก็จะส่งเสริมบทบาทสตรีให้มีส่วนร่วมผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างเท่าเทียม

ในส่วนของการพบปะหารือนั้น ได้มีการพบหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีจีน กับนายกรัฐมนตรีแอนติกาและบาร์บูดา ตลอดจนทวิภาคีกับนายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งพร้อมจะสนับสนุนการทำงานของเลขาธิการ และแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์อย่างแข็งขันต่อไป

สำหรับไทยนั้น ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่มีคนเป็นศูนย์กลางตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนให้ความสำคัญในภาคเอกชน และภาคประชาสังคมให้มีส่วนร่วมในการพัฒนา

เรื่องต่อไปคือ ไทยให้ความสำคัญกับประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบของประชาคมโลกร่วมกัน ไทยกำลังจัดทำ INDC ในเรื่องของการกำหนดอัตราการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไทยได้จัดทำแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นประเทศแรกๆ ที่ขับเคลื่อนกรอบการดำเนินงาน สู่แผนการปฏิบัติการในระดับประเทศ และไทยได้จัดการประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ก็มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจาก 20 ประเทศ รวมถึงผู้แทนจาก IOM, UNHCR, UNODC และเอกอัครราชทูต อุปทูตในไทยประมาณ 40 ประเทศเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นปัญหาที่สลับซับซ้อนหลายมิติ ทุกประเทศ ทุกฝ่ายคงต้องร่วมกันแก้ปัญหา ทั้งต้นทาง กลางทาง ปลายทางอย่างสม่ำเสมอ

สถานการณ์การเมืองไทยในปัจจุบันนั้น ผมยืนยันว่า ยังคงเป็นไปตามกรอบระยะเวลา ที่เรียกว่าโรดแมป สำหรับการเลือกเป็นสมาชิกไม่ถาวร UNHCR วาระปี ค.ศ. 2017-2018 ของไทยนั้น ไทยมีพื้นฐานจัดการที่ดี โดยเฉพาะในงานทั้ง 3 ด้านของสหประชาชาติ โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมในประเด็นสันติภาพ และความมั่นคง

อีกกรณีหนึ่งเป็นกรณีที่สมาชิกกลุ่ม G77 ได้ลงมติรับรองให้ประเทศไทยดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มสำหรับวาระปี 2559 เนื่องจากทางกลุ่ม G77 ได้มีการคัดเลือกจากประเทศที่มีประสบการณ์ และประเทศที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งประเทศไทยอยู่ในกลุ่มที่ประสบความสำเร็จในการลดความยากจนลงในปี 2543 มากกว่าร้อยละ 40 ก็ถือว่ามีบทบาท และมีการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการแก้ปัญหาด้วย ก็ต้องขอขอบคุณประเทศสมาชิกกลุ่ม G77 ที่รับรองให้ไทยนั้นดำรงตำแหน่งประธานกลุ่ม สำหรับในปีวาระ 2559 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยในเวทีโลกในขณะนี้

การประชุมที่สำคัญอีกอันหนึ่ง คือ การประชุมสุดยอดด้านการรักษาสันติภาพ มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก และแสดงความคิดเห็น และแนวทางในการรักษาสันติภาพ ซึ่งผมได้เสนอไปในที่ประชุมว่า จำเป็นต้องพูดถึงว่าทำอย่างไรการรักษาสันติภาพให้ไปสู่ความสงบ สันติสุขอย่างยั่งยืนนั้น คงจะพูดในเรื่องของการพัฒนาด้วย ในการที่จะทำให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่ที่มีความขัดแย้งเหล่านั้น สามารถที่จะทำมาหากินได้ต่อไปในอนาคต และเราได้เสนอความต้องการในการที่จะช่วยเหลือในเรื่องของการปฏิบัติเพื่อสันติภาพไปแล้วด้วย

สำหรับการเยือนครั้งนี้นะครับ ได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่ง อย่างอบอุ่น และเป็นกันเอง อย่างที่ผมพบเสมอมา ได้มีโอกาสไปเยือน 9/11 Memorial ที่ Ground Zero เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้ที่เสียชีวิต มีคนไทยเป็นสุภาพสตรีเสียชีวิต 1 ท่าน ผมได้วางดอกไม้ และวางหรีดด้วย บริเวณที่เป็นจุดที่ตั้งของตึกดังกล่าว ขอขอบคุณทีมประเทศไทย ท่านเอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ และท่านเอกอัครราชทูตประจำกรุงวอชิงตัน และข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนที่ให้การสนับสนุนอำนวยความสะดวก ให้กำลังใจจนทำให้ผม และคณะ สามารถปฏิบัติภารกิจได้ลุล่วงเป็นอย่างดี ขอบคุณคนไทยทั้งประเทศที่ติดตาม รวมทั้งที่สหรัฐอเมริกาทราบว่าจากรัฐต่างๆ เมืองต่างๆ ทั้งนิวยอร์ก บอสตัน ชิคาโก เทกซัส ลอสแองเจลิส อินดีแอนา คอนเนตทิคัต วอชิงตัน ดี.ซี. และอีกหลายเมืองหลายรัฐ ที่ผมต้องขออภัยนะครับ ที่อยากจะกล่าวถึงให้หมด ทราบว่าเหน็ดเหนื่อยมาให้การสนับสนุนผมเหมือนกัน แต่ผมไม่มีโอกาสได้พบใกล้ๆ ได้มองเห็นในระหว่างเดินทางในรถที่ไปประชุม ขอบคุณนะครับในการที่่ช่วยกันเป็นกำลังใจให้กับผมที่มาทำหน้าที่ให้กับประเทศไทย ในฐานะประชาคมโลก ทุกท่านนั้นผมถือว่าเป็นกำลังสำคัญทั้งสิ้นให้กับประเทศชาติของเราในการที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

จริงๆ แล้วผมห่วงใยทุกพวกทุกฝ่าย รวมทั้งผู้ที่เห็นต่างด้วย ก็อยากจะหันหน้ามาพูดคุยกัน เราเสียเวลาในการเรื่องที่ขัดแย้งกันต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ทุกประเทศในโลกนี้กำลังเดินหน้า กำลังขับเคลื่อนไปสู่สหัสวรรษหน้า อีก 15 ปี เราต้องกลับมาพูดคุยกัน

อีกเรื่องหนึ่งอยากจะให้บรรดาคนไทยที่อยู่ต่างประเทศรับทราบก็คือ ขณะนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น ทรงพระราชทานความห่วงใยให้กับคนไทยเสมอมา ก็หวังว่าทุกท่านคงจะช่วยกันถวายพระพรชัยให้พระองค์ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนยาว

ในขณะนี้ประเทศไทยกำลังเดินไปข้างหน้า อย่างที่ผมเคยกล่าวไว้แล้วว่าเราจะต้องผนึกกำลังกัน เจริญเติบโต เข้มแข็งไปด้วยกัน ที่เรียกว่า Stronger Together เพราะที่นี่คือบ้านของเรา คือประเทศของเรา สวัสดีครับ ขอบคุณครับ”
กำลังโหลดความคิดเห็น