รอยเตอร์ - ซาอุดีอาระเบียในวันศุกร์(25ก.ย.) บ่งชี้ว่าเหล่านักแสวงบุญเพิกเฉยต่อกฎระเบียบควบคุมฝูงชนคือต้นตอของเหตุเหยียบกันตายระหว่างร่วมประกอบพิธีฮัจญ์อย่างต่ำ 717 ศพ บาดเจ็บอย่างน้อย 863 คน นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 25 ปีของกิจกรรมทางศาสนาใหญ่ของที่สุดโลก
อิหร่าน ชาติคู่อริในภูมิภาคตะวันออกกลางของซาอุดีอาระเบีย แสดงความโกรธแค้นอย่างมาก เนื่องจากมีพลเมืองของพวกเขาเสียชีวิตในเหตุการณ์อันน่าสลดนี้มากถึง 131 คน และเหล่านักการเมืองในเตหะรานกล่าวโทษไปที่ความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของริยาด
คาลิด อัล-ฟาลิห์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของซาอุดีอาระเบีย บอกว่าจะดำเนินการสืบสวนอย่างรวดเร็ว แต่บ่งชี้ว่าบางทีเหตุเหยียบกันตายอาจเป็นเพราะนักแสวงบุญบางส่วนไม่ยอมทำตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตามพวกนักวิจารณ์มองว่าถ้อยแถลงชี้แจงดังกล่าวเป็นความพยายามบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ ขณะที่ประเด็นด้านความปลอดภัยระหว่างพิธีฮัจญ์เป็นเรื่องอ่อนไหวอย่างยิ่งสำหรับราชวงศ์อัล ซาอุด ผู้ปกครองซาอุดีอาระเบีย ที่นำเสนอตนเองต่อนานาชาติในฐานะผู้พิทักกษ์อิสลามดั้งเดิมและผ้ดูแลสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในนครเมกกะและเมืองเมดินา
กษัตริย์ซัลมาน ทรงรับสั่งให้ทบทวนแผนพิธีฮัจญ์หลังเกิดโศกนาฏกรรม อันมีต้นตอจากเหล่านักแสวงบุญกลุ่มใหญ่ 2 กลุ่ม มาประสานงากันตรงสี่แยกในเมืองมีนา ห่างจากนครเมกกะไปทางตะวันอออกไปกี่กิโลเมตร เพื่อเดินทางไปปาก้อนหินใส่เสาสัญลักษณ์ซาตานที่สะพานจามารัต
ฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ซึ่งอยู่ในนิวยอร์ก เพื่อร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ แสดงความเห็นสอดคล้องกับ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุด กล่าวโทษซาอุดีอาระเบียต่อเหตุการณ์นี้ "ผมขอให้รัฐบาลซาอุดีอาระเบียรับผิดชอบต่อโศกนาฏกรรม และดำเนินการตามกฎหมายและหน้าที่อิสลามในเรื่องนี้"
สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐของอิหร่านรายงานว่ามีประชาชนรวมตัวกันในกรุงเตหะราน เพื่อแสดงความโกรธแค้นต่อความไร้ประสิทธิภาพและความสามารถบริหารจัดการพิธีฮัจญ์ของซาอุดีอาระเบีย ขณะที่ฮุสเซน อามีร์ อับโดลลาเฮียน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้ตำหนิริยาดต่อความไม่เอาใจใส่ที่ไม่สามารถอภัยให้ได้ และแถลงจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เพรสทีวี สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐของเตหะราน รายงานโดยอ้างเหล่านักแสวงบุญอิหร่านที่รอดชีวิตจากโศกนาฏกรรมคราวนี้ บรรยายเหตุการณ์ว่าการตอบสนองของซาอุดีอาระเบียนั้นมีน้อยมากและช้าเกินไป โดยกว่าที่หน่วยกู้ภัยจะเดินทางมาถึง เหตุการณ์ก็ผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมงแล้ว และเริ่มต้นด้วยการเก็บศพผู้เสียชีวิตเลย แทนที่จะให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บก่อน
คำกล่าวอ้างนี้สวนทางกับคำสัมภาษณ์ของโฆษกกระทรวงมหาดไทยซาอุดีอาระเบียที่บอกกับสื่อมวลชนท้องถิ่นในวันศุกร์(25ก.ย.) ว่ากองกำลังความมั่นคงตอบสนองเหตุการณ์ในทันทีและได้ให้ความช่วยเหลือพวกคนที่ล้มทับกันเป็นลำดับแรก