เอเอฟพี / เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทางการซาอุดีอาระเบียมีแผนตัดลดการใช้จ่ายภาครัฐและออกพันธบัตรเพิ่มเติม หลังจากมีอันต้องเผชิญกับภาวะ การขาดดุลงบประมาณที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์จากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกตกต่ำ
อิบรอฮิม อัล-อัสซาฟ รัฐมนตรีคลังซาอุดีอาระเบียเปิดเผยผ่านสื่อดังของดูไบอย่าง “ซีเอ็นบีซี อาระเบีย” ระหว่างการเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ของสหรัฐฯ ร่วมกับกษัตริย์ซัลมานโดยยอมรับเป็นครั้งแรกว่า รัฐบาลริยาดห์กำลังพิจารณาตัดลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นของภาครัฐ หลังจากที่ซาอุดีอาระเบียซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในบรรดารัฐอาหรับทั้งหลาย และยังเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก กำลังเผชิญกับภาวะขาดดุลงบประมาณครั้งเลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์จากผลพวงของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ดิ่งเหวลงมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาจนแตะระดับต่ำกว่าบาร์เรลละ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ขุนคลังซาอุดีอาระเบียยอมรับด้วยว่า ราชอาณาจักรกลางทะเลทรายของตนกำลังพิจารณาการใช้ประโยชน์ จากการมี “ทุนสำรองมหาศาล” เพื่อลดช่องว่างการขาดดุลงบประมาณครั้งเลวร้ายที่กำลังเผชิญอยู่ แต่ยอมรับว่าลำพังการพึ่งพาทุนสำรองเพียงอย่างเดียวนั้นไม่ถือเป็นการเพียงพอ และรัฐบาลริยาดห์จำเป็นต้องมองหามาตรการอื่นๆ มาใช้เพิ่มเติมเพื่อลดทอนผลกระทบของรายได้ที่ขาดหาย ซึ่งอาจรวมถึงการตัดลดการใช้จ่ายของรัฐในด้านการศึกษาและสาธารณสุขลงเพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบีย
รัฐมนตรีคลังซาอุฯ ยังเผยว่า รัฐบาลริยาดห์มีแผนออกพันธบัตรเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงพันธบัตรอิสลาม “sukuk” เพื่อลดช่องว่างการขาดดุลงบประมาณของตนที่คาดว่าอาจสูงถึง 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ ตามการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่ระบุ ทางการซาอุดีอาระเบียอาจต้องเผชิญกับการขาดดุลที่สูงถึงระดับ 20 เปอร์เซ็นต์ หรือ 1 ใน 5 ของจีดีพี