xs
xsm
sm
md
lg

โอบามาทักทาย “หนีห่าว” รับ “สี่จิ้นผิง” เยือนทำเนียบขาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - ประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง ของจีนเดินทางไปเยือนทำเนียบขาววานนี้ (24 ก.ย.) ท่ามกลางบรรยากาศการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นมิตรจากประธานาธิบดี บารัค โอบามา ซึ่งได้กล่าวคำทักทายผู้นำจีนว่า “หนี ห่าว”



การพบปะระหว่าง สี่ และ โอบามา เริ่มเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยผู้นำทั้งสองได้ถอดเนคไทออก และเดินสนทนาอย่างเป็นกันเองจากอาคารปีกตะวันตกของทำเนียบขาว ข้ามถนนเพนซิลเวเนียไปยังเรือนรับรอง แบลร์ เฮาส์

เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายคาดหวังว่า บทสนทนาที่เริ่มขึ้นอย่างไม่มีพิธีรีตองนี้จะช่วยให้ผู้นำสองชาติมหาอำนาจทั้งในทางเศรษฐกิจและการทหารของโลก ได้หาเวลาแลกเปลี่ยนมุมมองซึ่งกันและกันเพิ่มเติม

ในวันนี้ (25 ) กองทัพสหรัฐฯ จะมีการยิงสลุต 21 นัดเพื่อต้อนรับผู้นำจีน ส่วน โอบามา ก็จะเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำแบบรัฐพิธี ซึ่งถือเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่า สี่ และจีนได้รับการปฏิบัติจากวอชิงตันในฐานะชาติมหาอำนาจ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยอมรับว่ายังมีปัญหาหลายด้านที่บั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และคำมั่นของ สี่ จิ้นผิง ที่ว่า “จีนจะผงาดอย่างสันติ” ก็ไม่แน่ว่าจะช่วยให้ความขัดแย้งต่างๆ คลี่คลายลงได้บนโต๊ะอาหารค่ำสุดหรู ซึ่งจะมีทั้งกุ้งล็อบสเตอร์อบเนยจากรัฐเมน และเนื้อแกะย่างจากรัฐโคโลราโดเป็นเมนูไฮไลต์

เบน โรดส์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงภายในของ โอบามา ได้กล่าวถึงงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำอย่างเป็นตัวส่วนตัวระหว่าง สี่ กับ โอบามา เมื่อวานนี้ (24) ว่า “เป็นโอกาสที่ทั้งสองได้ละวางประเด็นปัญหา และได้แลกเปลี่ยนมุมมองความเป็นไปของโลก... ซึ่งมุมมองเหล่านั้นก็ยังแตกต่างกันอยู่มาก ด้วยเหตุนี้ ผมจึงรู้สึกว่าการสนทนามีประโยชน์และมีความสำคัญ”

วอชิงตันมองว่า ประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง ซึ่งเริ่มต้นภารกิจเยือนสหรัฐฯ ด้วยการไปพบปะนักธุรกิจชั้นนำที่นครซีแอตเติล ถือเป็นผู้นำที่เข้มแข็งที่สุดคนหนึ่งของจีนในรอบหลายสิบปี โดยสามารถกระชับอำนาจทางการเมือง การทหาร และการบริหารประเทศ ได้อย่างรวดเร็ว ชนิดที่ไม่เคยมีผู้นำจีนคนใดทำได้หลังจาก เติ้ง เสี่ยวผิง เป็นต้นมา

แม้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจะทำให้ สี่ และกลุ่มเทคโนแครตในพรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มเผชิญคำถาม แต่โดยภาพรวมผู้นำจีนคนนี้ยังคงรักษาฐานอำนาจของตนไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

อย่างไรก็ตาม นโยบายเชิงรุกของ สี่ จิ้นผิง ก็ได้นำมาสู่ข้อพิพาททางทะเล เศรษฐกิจ และอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า มีความเสี่ยงที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนซึ่งทั้งซับซ้อนและมีการถ่วงดุลอำนาจกันอย่างหมิ่นเหม่ต้องกระทบกระเทือน

“เรามีความร่วมมือและแข่งขันกันอยู่ตลอดเวลา... แต่ก็พยายามจะไม่ให้การแข่งขันกลายมาเป็นนิยามหลักของความสัมพันธ์ และต้องให้มันดำเนินไปอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม” เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม ระบุ

ในการประชุมซิมมิตครั้งก่อนๆ ผู้นำสหรัฐฯ และจีนได้ทำข้อตกลงเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง การค้า และความร่วมมือด้านการทหาร ซึ่งช่วยเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่าง 2 มหาอำนาจ

“รัฐบาลจีนจะยืนยันเป็นครั้งแรกเรื่องการก่อตั้งระบบการค้าคาร์บอนแห่งชาติ (ETS) ภายในปี 2017” เจ้าหน้าที่อาวุโสอีกคนหนึ่งของสหรัฐฯ กล่าว

ระบบดังกล่าวจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศผู้ก่อมลพิษรายใหญ่ของโลก

การประชุมซัมมิตครั้งนี้อาจไม่สามารถผลักดันข้อตกลงฝ่าทางตันสำคัญๆ ได้ แต่ก็พอมีโอกาสที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับปัญหาความมั่นคงทางไซเบอร์

“ผมไม่คิดว่าเราจะได้ยินคำประกาศที่เรียกเสียงฮือฮาจากการประชุมซัมมิตครั้งนี้” เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าว

ประเด็นสำคัญๆ ที่ โอบามา และ สี่ จิ้นผิง จะมีการพูดคุยกัน ได้แก่ โครงการนิวเคลียร์อิหร่านและเกาหลีเหนือ, การจัดการปัญหาโลกร้อน และความสัมพันธ์ระหว่างพลเมือง นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีข้อตกลงเพื่อลดความเสี่ยงในการกระทบกระทั่งระหว่างอากาศยานทหารทั้ง 2 ชาติ

ทั้งนี้ ก่อนที่ สี่ จะเดินทางถึงสหรัฐฯ เพียง 1 วัน เจ้าหน้าที่อเมริกันเปิดเผยว่า เครื่องบินขับไล่ของจีน 2 ลำได้บินเฉียดเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐฯ ในระยะอันตราย โดยจุดเกิดเหตุอยู่ในน่านฟ้าสากลเหนือทะเลเหลือง





กำลังโหลดความคิดเห็น