เอเจนซีส์ – รัฐบาลอังกฤษประกาศทุ่มงบ 2,000 ล้านปอนด์ค้ำประกันโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งใหม่ของประเทศในรอบหลายสิบปี ซึ่งจะต้องใช้วงเงินลงทุนถึง 24,500 ล้านปอนด์ โดยจะมอบสัมปทานให้แก่กลุ่มกิจการร่วมทุนซึ่งมีบริษัทพลังงงานของจีนรวมอยู่ด้วย
จอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอังกฤษ ประกาศแผนการดังกล่าวระหว่างไปเยือนกรุงปักกิ่ง โดยระบุถึงความจำเป็นที่จะต้องก่อสร้างโรงไฟฟ้า ฮิงค์ลีย์ พอยนต์ ซี เพื่อตอบสนองความต้องการใช้พลังงานในประเทศ เนื่องจากโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินและนิวเคลียร์หลายแห่งในอังกฤษมีอายุเก่าแก่ และจวนได้เวลาปลดระวาง
ทั้งนี้ คาดว่ากิจการร่วมค้าซึ่งนำโดยบริษัท เอเล็กตริซิเต เดอ ฟรองซ์ แอส.เอ. (อีดีเอฟ) ของฝรั่งเศส จะตัดสินใจภายในปีนี้ว่า จะเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้า ฮิงค์ลีย์ พอยนต์ ซี บริเวณช่องแคบบริสตอล ซึ่งจะต้องใช้เม็ดเงินลงทุนมหาศาลถึง 24,500 ล้านปอนด์หรือไม่ ทว่าทางผู้บริหารได้ออกมาแสดงท่าทีชื่นชมเรื่องเงินค้ำประกันโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลอังกฤษเสนอมา
“คำสัญญาเรื่องเงินค้ำประกันโครงสร้างพื้นฐานจากรัฐมนตรีคลังอังกฤษถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า กรุงลอนดอนมีเจตนารมณ์จริงจังที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้า ฮิงค์ลีย์ พอยนต์ ซี” กระทรวงการคลังอังกฤษอ้างคำแถลงของ แวงซองต์ เดอ ริวาส ผู้บริหารอาวุโสของอีดีเอฟ
อีดีเอฟเป็นคู่สัญญารายใหญ่ในกิจการรวมค้า ซึ่งประกอบด้วยรัฐวิสาหกิจพลังงานของจีนอีก 2 แห่ง คือ ไชนา เจเนอรัล นิวเคลียร์ คอร์ปอเรชัน และ ไชนา เนชันแนล นิวเคลียร์ คอร์ปอเรชัน
บริษัทพลังงานจีนทั้ง 2 แห่งคาดว่าจะร่วมลงทุนประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ฮิงค์ลีย์ พอยนต์ ซึ่งจะมีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใหม่ 2 ตัวที่ตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าในอังกฤษได้ถึงร้อยละ 7
ออสบอร์น เดินทางเยือนปักกิ่งเป็นเวลา 5 วันเพื่อกระชับสัมพันธ์การค้ากับมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก แม้เศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอลงในระยะนี้จะยังเป็นที่น่ากังวลสำหรับนักลงทุนก็ตาม
“เรายินดีต้อนรับการลงทุนจากจีน ไม่เพียงในโครงการนี้เท่านั้น แต่รวมถึงแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งอื่นๆ ของสหราชอาณาจักรในอนาคตด้วย” รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
ทั้งนี้ คาดว่ารัฐบาลจีนจะแถลงผลการตัดสินใจขั้นสุดท้ายช่วงที่ประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง เดินทางเยือนกรุงลอนดอนในเดือนตุลาคมนี้