ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หน่วยเฉพาะกิจสงขลา เชียร์โรงไฟฟ้าถ่านหินออกนอกหน้า ชงเรื่องเสนอ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า สั่งเด้ง “ส.ต.ต.” ผู้เห็นต่างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา เหตุผลแค่นำนักข่าวทำข่าวลงพื้นที่
วันนี้ (15 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนจากแหล่งข่าวซึ่งเป็นแกนนำคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ว่า ส.ต.ต.สุขเกษม ประสิทธิหิมะ ตำรวจสังกัด สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.เทพา จ.สงขลา และเป็นผู้หนึ่งที่แสดงตัวชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยต่อโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา กำลังถูกกลั่นแกล้งจากรายงานของหน่วยข่าวด้านความมั่นคงของหน่วยเฉพาะกิจสงขลา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวหน่วยเฉพาะกิจสงขลา ได้เปิดห้องประชุมสถานการณ์เกี่ยวกับโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพากันภายในห้องประชุมโคกแก้ว โรงไฟฟ้าจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา โดยมี พ.อ.ประเสริฐ ขวัญชัย รอง ผบ.ฉก.สงขลา เป็นประธานในการประชุม
โดยในการประชุมดังกล่าว หน่วยข่าวได้นำภาพถ่ายจากโซเชียลมีเดีย เป็นภาพของ ส.ต.ต.สุขเกษม ประสิทธิหิมะ กำลังนำผู้สื่อข่าวทีวีช่องหนึ่งลงพื้นที่ทำข่าววิถีชีวิต และความอุดมสมบูรณ์ของ อ.เทพา ที่เป็นเหตุผลหนึ่งซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ใช้เป็นประเด็นเคลื่อนไหวไม่เห็นด้วยต่อโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา
โดยจากรายงานดังกล่าว ที่ประชุมหน่วย ฉก.สงขลา สรุปว่า จะมีการทำหนังสือเสนอไปยัง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อให้ปรับย้าย ส.ต.ต.สุขเกษม ประสิทธิหิมะ ออกจากพื้นที่ สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพื่อให้ ส.ต.ต.สุขเกษม ประสิทธิหิมะ หยุดพฤติกรรมดังกล่าวที่เป็นการแสดงออกว่าคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา
แหล่งข่าวแกนนำในเครือข่ายคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ระบุว่า การแสดงออกของประชาชนที่มีส่วนได้เสียต่อโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ถือเป็นสิทธิที่กฎหมายรัฐธรรมนูญให้การคุ้มครอง แต่จากพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ และผู้บังคับบัญชาในหน่วยเฉพาะกิจสงขลา กลับเป็นการแสดงออกชัดเจนในฐานะหน่วยงานราชการว่าจะมีการจัดการทุกทางเพื่อไม่ให้มีการคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถือว่าไม่เป็นธรรมต่อชาวบ้าน หรือข้าราชการชั้นผู้น้อยที่เห็นต่าง ซึ่งสุดท้ายก็จะถูกอำนาจที่เหนือกว่ากลั่นแกล้ง และใส่ร้ายป้ายสีอย่างไม่เป็นธรรม
“การนำผู้สื่อข่าวลงทำข่าวในพื้นที่ โดยทางผู้สื่อข่าวติดต่อมา ไม่น่าจะเป็นความผิด เพราะ ส.ต.ต.สุขเกษม นำผู้สื่อข่าวลงดูความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตาม ฝ่ายราชการ หรือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตพยายามบิดเบือนข้อมูลมาโดยตลอดว่า อ.เทพา เป็นพื้นที่ยากจน ควรสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพื่อการพัฒนา ทั้งที่ความจริงแล้ว ชาวบ้านใน อ.เทพา อยู่ได้ด้วยการพึ่งพาทรัพยากรในพื้นที่มาโดยตลอด ดังนั้น ราชการควรพูดความจริงต่อประชาชน ไม่ใช่ใช้อำนาจบาตรใหญ่มารังแกกันแบบนี้ การทำแบบนี้เท่ากับเจ้าหน้าที่ลุแก่อำนาจ ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุหรือไม่”