เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - โตเกียวประท้วงมอสโก หลังส่งเครื่องบินเข้าสกัดเครื่องบินขับไล่ต่างชาติ 4 ลำ ซึ่งเชื่อว่าเป็นของรัสเซียที่รุกล้ำน่านฟ้าช่วงสั้นๆ เมื่อบ่ายวันอังคาร (15 ก.ย.)
เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ได้ยื่นหนังสือประท้วงผ่านสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียในโตเกียว ไม่นานหลังจากที่เครื่องบินต่างชาติ 4 ลำรุกล้ำน่านฟ้าของญี่ปุ่นบริเวณเหนือเกาะฮอกไกโด ซึ่งเป็นเกาะหลักที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือสุดของประเทศ ใกล้ๆ กับหมู่เกาะคูริว ที่ญี่ปุ่นมีข้อพิพาทช่วงชิงกรรมสิทธิ์อยู่กับรัสเซีย
เจ้าหน้าที่คนเดิมเพิ่มเติมว่า ทางฝ่ายสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียไม่ได้ยืนยันว่าเป็นเครื่องบินของแดนหมีขาว เพียงตอบกลับว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเปิดเผยรายละเอียดว่า เมื่อช่วงบ่ายวันอังคาร กองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศของญี่ปุ่นได้ส่งเครื่องบินเข้าสกัดเครื่องบินขับไล่ 4 ลำที่รุกล้ำน่านฟ้า ซึ่งหลังจากวิเคราะห์เส้นทางบินเชื่อว่าเป็นเครื่องบินของรัสเซีย
ทางด้านกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแถลงว่า หากสมมติฐานดังกล่าวได้รับการยืนยัน จะถือเป็นครั้งแรกในรอบเวลากว่า 2 ปีที่เครื่องบินรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าญี่ปุ่น ทั้งนี้ การล่วงล้ำครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้บังเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2013โดยเครื่องบินทิ้งระเบิด ทียู-95 ของแดนหมีขาว ถูกฝ่ายแดนอาทิตย์อุทัยสกัดที่บริเวณนอกชายฝั่งเกาะโอกิโนชิมะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น
กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแถลงเพิ่มเติมว่า หลังจากรุกล้ำน่านฟ้าญี่ปุ่น 16 วินาที เครื่องบินทั้งสี่ลำก็บินออกไปและมุ่งหน้าสู่หมู่เกาะคูริล ซึ่งญี่ปุ่นอ้างกรรมสิทธิ์ แต่ปัจจุบันอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย
ทั้งนี้ กองทัพโซเวียตเข้ายึดหมู่เกาะคูริลซึ่งเรียกกันในแดนอาทิตย์อุทัยว่า ดินแดนตอนเหนือของญี่ปุ่น ไม่นานนักก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2
ข้อพิพาทนี้ที่กินระยะเวลาถึง 7 ทศวรรษ บ่อนทำลายการค้าและขัดขวางไม่ให้มอสโกและโตเกียวร่วมลงนามสนธิสัญญาสันติภาพหลังสงครามอย่างเป็นทางการ
แผนที่บนเว็บไซต์ของกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่า เครื่องบินได้ข้ามเส้นกึ่งกลางระหว่างคาบสมุทรเนมูโระ ของญี่ปุ่น กับ 1 ใน 4 ของหมูเกาะคูริลที่พิพาทช่วงชิงกัน เกาะแห่งนี้ญี่ปุ่นเรียกชื่อว่า คูนาชีริ ส่วนรัสเซียเรียกว่า คูนาชีร์
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ซังเคอิ ชิมบุง รายงานว่า ฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น กำลังพิจารณาเดินทางเยือนมอสโกในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย จะไปเยือนโตเกียวปลายปีนี้
กำหนดการเยือนของคิชิดะถูกปรับเปลี่ยนเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากโตเกียวแสดงความไม่พอใจที่นายกรัฐมนตรีดมิทรี เมดเวเดฟของรัสเซีย เดินทางไปยังเกาะแห่งหนึ่งในหมู่เกาะคูริล
ญี่ปุ่นบอกว่า ตนเองต้องส่งเครื่องบินเข้าสกัดเครื่องบินทั้งของรัสเซียและจีนปีละหลายร้อยครั้ง และขณะนี้ ยังต้องคอยระวังเรือจีนรุกล้ำน่านน้ำอีกด้วย
โดยในปีงบประมาณที่ผ่านมา (เม.ย. 2014 - มี.ค. 2015) ญี่ปุ่นต้องสกัดการรุกล้ำของเครื่องบินจีน 464 ครั้ง ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุด หลังจากเครื่องบินเหล่านั้นละเมิดเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศของญี่ปุ่นที่มีขอบเขตกว้างขวางกว่าน่านฟ้าปกติ และ 473 ครั้งสำหรับเครื่องบินรัสเซียในช่วงเวลาเดียวกัน
ทางด้านปักกิ่งเตือนว่า การดำเนินการสกัดกั้นดังกล่าวทำให้สถานการณ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นตึงเครียดมากขึ้น เพิ่มเติมจากที่มีข้อพิพาทเกี่ยวกับดินแดนในทะเลจีนตะวันออก และความบาดหมางลึกล้ำจากการที่กองทัพญี่ปุ่นรุกรานจีนในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว