xs
xsm
sm
md
lg

สหประชาชาติประกาศตั้ง “เขตปลอดอาวุธ” ในแอฟริกากลาง หวังแก้ปัญหาชาวคริสต์-ชาวมุสลิมฆ่าล้างแค้นไม่จบสิ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประกาศในวันพุธ (9 ก.ย.) จัดตั้ง “เขตปลอดอาวุธ” ในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง เพื่อปกป้องพลเรือนผู้บริสุทธิ์จากการตกเป็นเหยื่อของการล่าสังหาร โดยบรรดากลุ่มติดอาวุธทั้งของชาวคริสต์และชาวมุสลิมหัวรุนแรง

แอร์เว ลาดซูส์ รองเลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติด้านปฏิบัติการรักษาสันติภาพซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส ออกมาเปิดเผยว่า ทางยูเอ็นเห็นชอบให้มีการจัดตั้งเขตปลอดอาวุธ (weapons-free zone) ซึ่งมีผลในทันที ขึ้นที่เมืองบัมบารีของสาธารณรัฐแอฟริกากลาง หลังจากที่เกิดการปะทะกันอย่างหนักหน่วงระหว่างกลุ่มกบฏมุสลิม “เซเลกา” ที่มีฐานที่มั่นอยู่ในเมืองดังกล่าวนี้ กับกองกำลัง “แอนตี้-บาลากา” ของชาวคริสต์

โดยการปะทะกันรอบล่าสุดของทั้งสองฝ่ายซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีต้นตอมาจากการที่กองกำลังแอนตี้-บาลากาของชาวคริสต์ ก่อเหตุฆ่าตัดศีรษะวัยรุ่นชาวมุสลิมรายหนึ่ง เพื่อแก้แค้นที่พวกกบฏมุสลิมเซเลกาก่อเหตุทำร้ายชาวคริสต์ในชุมชนแห่งหนึ่ง

“เราตัดสินใจจัดตั้งเขตปลอดอาวุธขึ้นในเมืองบัมบารีเพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยในชีวิต และความปลอดภัย ในการเดินทางของประชาชนในเมืองนี้ ตลอดจนเพื่อเป็นการเปิดทางให้กับเจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรม ได้นำความช่วยเหลือที่จำเป็นเข้ามาในพื้นที่” รองเลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติด้านปฏิบัติการรักษาสันติภาพกล่าวระหว่างเดินทางเยือนสาธารณรัฐแอฟริกากลาง

ผลของการประกาศเขตปลอดอาวุธดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติมีอำนาจเต็มที่ในการเข้ามาควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยในเมืองบัมบารี

เมื่อเดือนที่แล้ว มีรายงานว่าพลเรือนกว่า 3,000 คนทั้งที่เป็นชาวคริสต์และชาวมุสลิมได้หลบหนีเข้ามาขอลี้ภัยภายในฐานทัพของกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นในเมืองดังกล่าวเพราะหวั่นตกเป็นเหยื่อการล่าสังหารของกลุ่มติดอาวุธทั้งสองกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่

ทั้งนี้ สาธารณรัฐแอฟริกากลาง อดีตดินแดนอาณานิคมของฝรั่งเศส ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดินแดนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุใต้ดินหลายชนิด ได้ถลำเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งนับตั้งแต่ปี 2013 เมื่อกลุ่มกบฏมุสลิมเซเลกาได้เข้ายึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลกลางที่นำโดยชาวคริสต์ และเริ่มก่อเหตุสังหารพลเรือนชาวคริสต์แบบไม่เลือกหน้า เป็นเหตุให้ชาวคริสต์จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธแอนตี้-บาลากาขึ้น เพื่อทำการสังหารหมู่พลเรือนที่เป็นชาวมุสลิมบ้าง ก่อนที่การฆ่าล้างแค้นระหว่างผู้นับถือศาสนาทั้งสอง จะลุกลามบานปลายจากกรุงบังกีออกไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ

ข้อมูลขององค์การสหประชาชาติระบุว่า ความขัดแย้งทางศาสนาในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 5,000 ราย นับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2013 เป็นต้นมา