รอยเตอร์ - สหรัฐฯ และนาโตแสดงความกังวลเมื่อวันพุธ (9 ก.ย.) หลังมีข่าวว่ากองกำลังรัสเซียเข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารในซีเรียมากขึ้น เพื่อสนับสนุนทหารของรัฐบาลประธานาธิบดีอัสซาด เตือนเป็นการโหมกระพือความรุนแรงและทำให้วิกฤตยุ่งยากซับซ้อนกว่าเดิม
ในการให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ แหล่งข่าวไม่ประสงค์เอ่ยนามรายหนึ่งไม่ได้พาดพิงจำนวนกำลังพลรัสเซีย ส่วนแหล่งข่าวอีกคนบอกว่าจนถึงตอนนี้ยังมีทหารมอสโกเข้ามาเกี่ยวข้องแค่เล็กน้อย แต่ดูเหมือนเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จะมองว่ามันคือการเสริมกำลังทางทหารรอบใหม่ของเครมลิน หนึ่งในพันธมิตรหลักของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรีย
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมารัสเซียส่งเรือยกพลขึ้นบก 2 ลำและอากาศยานเพิ่มเติมเข้าไปในซีเรีย เช่นเดียวกับประจำการทหารราบนาวีจำนวนเล็กน้อย เบื้องต้นจุดประสงค์ของความเคลื่อนไหวทางทหารในครั้งนี้ของรัสเซียยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ข้อบ่งชี้ต่างๆ เพ่งเล็งไปที่การเตรียมการ ณ ลานบินแห่งหนึ่งใกล้ลาตาเกีย เมืองท่าซึ่งเป็นป้อมปราการของฝ่ายอัสซาด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่กองกำลังรัฐบาลนายอัสซาดต้องประสบกับความปราชัยครั้งสำคัญในสมรภูมิรบของสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมากว่า 4 ปี คร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 250,000 ศพ และราวครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด 23 ล้านคนต้องหลบหนีออกจากถิ่นที่อยู่อาศัย
ทหารรัฐบาลซีเรียต้องถอนกองกำลังออกจากฐานทัพอากาศหลักแห่งหนึ่งในวันพุธ (9 ก.ย.) โดยที่กลุ่มสังเกตการณ์บอกว่ามันหมายความว่ากองกำลังรัฐบาลไม่เหลืออยู่ในจังหวัดอิดลิบอีกแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้เกือบทั้งหมดตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏตั้งแต่ช่วงต้นปี
มอสโกยืนยันว่ามีผู้เชี่ยวชาญประจำอยู่ภาคพื้นซีเรียจริง แต่รัสเซียปฏิเสธความคิดเห็นถึงจำนวนที่แท้จริงของทหารเหล่านั้น ส่วนทางดามากัสปฏิเสธว่าเครมลินไม่เคยเกี่ยวข้องกับการสู้รบ แต่เจ้าหน้าที่รายหนึ่งยอมรับว่ารัสเซียส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามายังซีเรียเพิ่มมากขึ้นในช่วงขวบปีที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ในสหรัฐฯ ซึ่งกำลังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียและต่อต้านรัฐบาลอัสซาดด้วย สงสัยว่ารัสเซียมีการเสริมความช่วยเหลือแก่กองกำลังนายอัสซัดมากยิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ทางวอชิงตันก็กดดันประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงของมอสโก ปฏิเสธไม่ให้เที่ยวบินรัสเซียบินผ่านน่านฟ้าไปยังซีเรีย ความเคลื่อนไหวที่ทางรัสเซียประณามเมื่อวันพุธ (9 ก.ย.) ว่าเป็นพฤติกรรมที่หยาบคาย
สะท้อนความกังวลของตะวันตก รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีเตือนรัสเซียต่อการยกระดับแทรกแซงทางทหารในซีเรีย โดยบอกว่าข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านและแนวคิดริเริ่มใหม่ของสหประชาชาติ ได้ก่อจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับทางออกทางการเมืองแก้ไขวิกฤตความขัดแย้งนี้แล้ว
นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) บอกว่ารายงานข่าวเกียวกับรัสเซียมีความเคลื่อนไหวทางทหารเพิ่มขึ้นในซีเรีย ก่อความกังลอย่างสูง ส่วนฝรั่งเศสบอกว่ามันทำให้การหาทางออกทางการเมืองแก้ไขวิกฤตนี้ต้องประสบปัญหายุ่งยากซับซ้อนยิ่งขึ้น
ด้านนายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้บอกกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย แสดงความกังวลต่อความเคลื่อนไหวดังกล่าว พร้อมเตือนมันอาจกระพือความรุนแรงและทำให้ความพยายามของประชาคมนานาชาติเพื่อยุติความขัดแย้งนี้ต้องเปล่าประโยชน์