xs
xsm
sm
md
lg

UN เผย “อิสราเอล” สั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของชาวปาเลสไตน์ราว 13,000 แห่งในเวสต์แบงก์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี – สิ่งปลูกสร้างประมาณ 13,000 แห่งของชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์กำลังจะถูกรื้อถอนตามคำสั่งของรัฐบาลอิสราเอล ซึ่งทำให้ประชาชนและบ้านเรือนจำนวนมาก “ตกอยู่ในความไม่แน่นอนและภาวะสุ่มเสี่ยงเรื้อรัง” องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุในรายงานวันนี้ (7 ก.ย.)

รายงานของสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) ที่ใช้ชื่อว่า “ภายใต้ความเสี่ยง” (Under Threat) ยังกล่าวถึงความยากลำบากที่ชาวปาเลสไตน์ต้องเผชิญในการขอใบอนุญาตปลูกสร้างอาคารที่พักอาศัย เพื่อป้องกันมิให้ถูกทางการอิสราเอลสั่งรื้อทิ้ง

คำสั่งรื้อถอนมากกว่า 11,000 กรณีที่เกี่ยวข้องกับสิ่งปลูกสร้างของชาวปาเลสไตน์ประมาณ 13,000 แห่งในเขตเวสต์แบงก์ ยังอยู่ระหว่างรอดำเนินการ

“แม้การรื้อถอนจะเพิ่งดำเนินการไปเพียงเล็กน้อย ทว่าคำสั่งก็ยังไม่หมดอายุ ซึ่งทำให้อาคารบ้านเรือนนับหมื่นหลังตกอยู่ในความเสี่ยงและความไม่แน่นอน” OCHA ระบุ

“ในบางพื้นที่ที่คำสั่งรื้อถอนถูกดำเนินการไปแล้ว ชาวบ้านก็ต้องย้ายไปหาที่อยู่ใหม่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต กระตุ้นวงจรความยากจน และทำให้ผู้คนเหล่านี้ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากภายนอกมากขึ้น”

รายงานฉบับนี้อ้างข้อมูลของรัฐบาลอิสราเอลเกี่ยวกับ “เขต C” ซึ่งเป็นเขตปกครองที่ก่อตั้งขึ้นตามข้อตกลงออสโลในปี 1995 กินพื้นที่ประมาณ 60% ของเขตเวสต์แบงก์ และอยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอลอย่างสมบูรณ์

ข้อมูลก่อนปี 1995 ที่ OCHA นำมาอ้างในรายงาน ล้วนเป็นพื้นที่ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเขต C

OCHA ระบุว่า ในช่วงปี 1988-2014 รัฐบาลอิสราเอลได้ออกคำสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของชาวปาเลสไตน์มากกว่า 14,000 ครั้ง ซึ่งในจำนวนนี้มีอยู่ 11,000 คำสั่งที่ยังมีผลบังคับอยู่

“หลายกรณีเราพบว่า ใบสั่ง 1 ใบมีผลต่อการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างมากกว่า 1 หลังของครอบครัวเดียว (เช่น ตัวบ้าน โรงเรือนสัตว์เลี้ยง โกดังเก็บของ ห้องน้ำ เป็นต้น)”
ชายชาวปาเลสไตน์เดินสำรวจซากบ้านเก่าๆ ของพวกเขาในเมืองรามัลเลาะห์ ทางตะวันออกของเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งถูกรื้อถอนตามคำสั่งของรัฐบาลอิสราเอล เมื่อวันที่ 3 ก.ย.
เดือนที่แล้ว องค์กรระหว่างประเทศ 31 แห่ง รวมถึงอ็อกซ์แฟม และองค์กรนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับการรื้อถอนอาคารในเขตเวสต์แบงก์ พร้อมอ้างตัวเลขจากยูเอ็นที่ระบุว่า ในเดือนสิงหาคมทหารอิสราเอลได้รื้อถอนบ้านและสิ่งปลูกสร้างรวม 63 หลังในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว ทำให้ชาวปาเลสไตน์ 132 คนต้องไร้บ้านอยู่

รัฐบาลอิสราเอลยังไม่ตอบรับคำขอสัมภาษณ์ของผู้สื่อข่าวเอเอฟพีเกี่ยวกับรายงานของ OCHA แต่เคยให้เหตุผลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า เหตุที่ต้องเข้าไปรื้อถอนเป็นเพราะอาคารเหล่านั้นสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง

ชาวปาเลสไตน์ส่วนใหญ่ระบุว่า การขออนุญาตก่อสร้างมักถูกเจ้าหน้าที่อิสราเอลปฏิเสธ ซึ่งทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือก

“การวางผังเมืองและจัดโซนนิงที่อิสราเอลกำหนดขึ้น รวมถึงการจัดสรรที่ดินสำหรับสาธารณะ ทำให้การก่อสร้างที่พักอาศัยของชาวปาเลสไตน์ในเขต C แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย” OCHA ระบุ

OCHA ชี้ว่า ปัจจุบันมีชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่ในเขต C ประมาณ 300,000 คน ขณะที่ชาวอิสราเอลก็เข้าไปอาศัยอยู่ประมาณ 356,000 คนเช่นกัน

การตั้งถิ่นฐานในเวสต์แบงก์ของชาวอิสราเอลขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นปมปัญหาสำคัญที่ขัดขวางกระบวนการสันติภาพ เนื่องจากชาวปาเลสไตน์ถือว่าพื้นที่บริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของรัฐปาเลสไตน์ที่จะก่อตั้งขึ้นในอนาคต
ชายชาวปาเลสไตน์เดินสำรวจทรัพย์สินของตน หลังถูกทหารอิสราเอลบุกเข้ารื้อถอนบ้านในเมืองรามัลเลาะห์ เมื่อวันที่ 3 ก.ย.

กำลังโหลดความคิดเห็น